โต้ไปโต้กลับ คดี "ทนายตั้ม"

View icon 151
วันที่ 11 พ.ย. 2567 | 11.27 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - "ทนายสายหยุด" ทนายความของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เดิมตั้งใจจะเข้าไปหาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่เพราะมีภารกิจอื่น เลยเลื่อนไปเป็นช่วงบ่าย ขณะที่ "อาจารย์ปานเทพ" ตั้งโต๊ะชี้แจงปมสู้คดี ว่ามีข้อพิรุธทุกประเด็น

เริ่มจาก ทนายสายหยุด ก่อน บอกกับทีมข่าวว่า จะไปเข้าเยี่ยม ก็จะไปถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ทั้ง ทนายตั้ม และภรรยา ว่าต้องการอะไรเพิ่มหรือไม่ รวมถึงเรื่องการฝากเงินเข้าบัญชี โดยเฉพาะภรรยาของทนายตั้ม ที่จะไปให้กำลังใจ และหารือเรื่องแนวทางการยื่นประกันตัว

ส่วนแนวทางการต่อสู้คดี จะรอให้พ้น 5 วันแรกของการอยู่ในแดนกักโรคก่อน ถึงจะได้คุยกันได้สะดวก และส่วนตัวก็มองว่า ทนายตั้ม ไม่มีโจทก์ในเรือนจำ อีกทั้งเรือนจำเองก็มีมาตรการป้องกันอยู่แล้ว เรื่องการหาคนกลางผู้เชี่ยวชาญมาให้ตำรวจสอบปากคำ ก็ยืนยันว่าไม่ใช่การประวิงเวลา เป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ที่ควรเกิดขึ้น อีกทั้งคดีนี้พนักงานสอบสวนมีเวลาสอบปากคำถึง 6 ผัด ก่อนส่งสำนวน

ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งโต๊ะแถลงข่าว พูดถึงแนวทางการต่อสู้คดีของ ทนายสายหยุด เทียบกับข้อมูลที่ ทนายตั้ม และ มาดามอ้อย เคยออกมาพูด ว่ามีหลายอย่างไม่สอดคล้องเป็นข้อพิรุธ

ยกตัวอย่างเรื่องเงิน 71 ล้านบาท มาดามอ้อย และผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ให้การตรงกัน ว่าเป็นเรื่องการลงทุนทางธุรกิจ จะบอกว่าเป็นเงินที่ให้โดยสเน่หาคงไม่ใช่ เรื่องการหลบเลี่ยงภาษี ก็ไม่ใช่ความจริง เพราะ มาดามอ้อย สามารถนำเงินเข้าไทยได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการโอนเงิน หรือจะถอนเงินสดให้ ทนายตั้ม โดยตรงก็ยังได้

เรื่องรถยนต์ก็มีพิรุธเรื่องการทำเอกสารที่มีการปกปิดราคาจริง ไม่สอดคล้องกับราคาตลาด และที่ปฏิเสธได้ยาก คือเรื่องเงิน 9 ล้านบาท ค่าออกแบบก่อสร้างโรงแรม

ขอบคุณภาพจาก : Facebook คุยทุกเรื่องกับสนธิ