ตร.คุมเข้มหวั่นประชาทัณฑ์ หิ้วผัวโหดทำแผน ท่ามกลางเสียงสาปแช่ง ผัวโหด ยกมือไหว้ขอโทษลูกสาวและญาติ ลูกสาวคนตายลั่นไม่ให้อภัยพ่อเลี้ยง พี่ชายคนตายไม่อยากเห็นหน้ากลัวทำใจไม่ได้ ปล่อยให้กฎหมายและเวรกรรมจัดการ
จากกรณี นายนะ อายุ 49 ปี ใช้มีดแทง น.ส.สัง อายุ 48 ปี ภรรยา 16 แผล เสียชีวิต ภายในบ้านพัก ที่ ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง หลังเกิดเหตุ ถูกนายศักดิ์พล อนุวัฒโนภาส ผู้ช่วยกำนันตำบลสำนักทองควบคุมตัวไว้ โดยผู้ก่อเหตุยอมรับว่าลงมือเอง เพราะเมียมีชู้ ทนมานานแล้ว จากการสอบสวนทราบว่าทั้วสองทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะสามีระแวงเมียปันใจให้ชายอื่น ก่อนเกิดเหตุเห็นคุยโทรศัพท์และแช็ตคุยกัน จึงสุดทนคว้ามึดแทงจนตายคามือ ตามที่เสนอไป
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 12 พ.ย. ที่ สภ.สำนักทอง ระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังเตรียมควบคุมตัว นายนะ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.สัง อายุ 48 ปี ภรรยาเสียชีวิต เพราะความหึงหวง โดยผู้ต้องหายังคงถูกควบคุมตัวอยู่ภายในห้องขัง สภ.สำนักทอง โดยมีพี่ชาย และ ญาติของผู้เสียชีวิตมายืนรออยู่
นายประไพ พี่ชายผู้เสียชีวิตได้กล่าวด้วยความเศร้าน้ำตาคลอเบ้า ว่า เคยเตือนทั้งคู่ให้ใจเย็นมีอะไรค่อยๆคุยกัน แต่ก็มาเกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อเกิดเหตุขึ้นก็จุกจนพูดไม่ออก ในใจก็โกรธที่น้องสาวถูกฆ่า แต่ก็พยายามทำใจ ไม่อยากเห็นหน้า กลัวทำใจไม่ได้ ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายและเวรกรรม วันนี้ก็ยังสงสารให้คนนำข้าวไปให้ผู้ก่อเหตุ เพราะไม่มีญาติพี่น้องมาเยี่ยมเลย ตอนทำแผนจึงไม่อยากไป เตรียมไปรับศพน้องสาว เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ทจ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด
ต่อมา พ.ต.อ.พิระชัช ใจเย็น ผกก.สภ.สำนักทอง ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายนะ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียดสวมหมวกกันน็อก โดยมีตำรวจคุ้มกันอย่าแน่นหน้า เมื่อนำตัวลงจากรถ มีชาวบ้านมายืนมุงดูกันจำนวนมาก รวมถึงญาติของผู้เสียชีวิต โดยผู้ต้องหายกมือไหว้ขอโทษบุตรสาว และ ญาติของผู้เสียชีวิต ใข้เวลาประมาณ 30 นาที ทำแผนเสร็จรีบควบคุมตัวขึ้นรถออกไปทันที ท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้าน
น้องน้ำ อายุ 19 ปี บุตรสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตา ว่าไม่ยกโทษให้พ่อเลี้ยงเด็ดขาด เป็นการกระทำที่โหดร้าย ทำไมต้องทำกับแม่ด้วย ขอไปรับกรรม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่น พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนญาติผู้เสียชีวิตเตรียมติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป