กกต. เข้าสอบปากคำ “ทนายตั้ม” ในเรือนจำ หลังมีผู้ร้องขาดคุณสมบัติสมัคร สว. ทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี

กกต. เข้าสอบปากคำ “ทนายตั้ม” ในเรือนจำ หลังมีผู้ร้องขาดคุณสมบัติสมัคร สว. ทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี

View icon 92
วันที่ 13 พ.ย. 2567 | 11.48 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กกต. จังหวัดสมุทรสาคร เข้าสอบปากคำทนายตั้ม ในเรือนจำ หลังมีผู้ร้องขาดคุณสมบัติสมัคร สว. ทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10ปี  ยืนยัน เคยเรียกสอบมาหลายครั้งแต่ถูกเลื่อน หากพบขาดคุณสมบัติตามกฎหมายต้องถูกดำเนินคดีอาญาด้วย

วันนี้ (13 พ.ย. 67) นายนิติพัฒน์ ชูกล้ากสิกรณ์ ประธานคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กกต.จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัดสมุทรสาคร เดินทางเข้ามาสอบปากคำ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ  กรณีมีผู้ร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม 17  เนื่องจากทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี

โดยนายนิติพัฒน์ ระบุว่า ช่วงประมาณเดือน ก.ย. มีผู้ร้องเรียนทนายตั้มในช่วงสมัคร สว.เรื่องคุณสมบัติการสมัคร สว. ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว แม้ในช่วงการรับสมัครรับเลือกตั้ง สว. จะมีการตรวจสอบคุณสมับติแล้ว แต่เป็นการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น ทั้งนี้เมื่อมีผู้ร้องคัดค้านก็จะต้องมาตรวจสอบโดยละเอียด ซึ่งเมื่อ กกต.จังหวัดสมุทรสาคร รับเรื่องจาก กกต.กลาง ก็มาดำเนินกระบวนการสอบสวนทันที โดยมีกรอบระยะเวลาการทำงานแรก 20วัน แต่ทนายตั้มขอเลื่อนชี้แจง จนขอขยายระยะเวลาการเข้าขี้แจงข้อมูล2รอบ รอบละ15วัน รวมเป็นขยายเวลามาแล้ว 30วัน รวมเป็นทั้งหมด 50วัน และนัดหมายจะให้ข้อมูลวันที่ 27 พ.ย. นี้ แต่เนื่องจากกรอบระยะเวลาจังหวัดมีถึงแค่วันที่ 25 พ.ย. 

ซึ่งเหตุผลที่ต้องเดินทางมาในช่วงที่มีประเด็นข่าว เพราะทราบว่าทนายตั้มถูกควบคุมตัวอยู่ก็เลยเดินทางมาสอบในวันนี้ และระยะเวลาการสอบสวนของ กกต.มีจำกัดจึงต้องรีบทำอะไรเร่งด่วน เพื่อส่งข้อมูลให้กกต.กลางได้นำไปวินิจฉัยต่อ
  
ทั้งนี้หากผลการตรวจสอบพบว่า ทนายตั้มขาดคุณสมบัติ จะมีความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยกันได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 74 ที่กำหนดว่าผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกไม่ว่าเพราะเหตุใดได้สมัครรับเลือก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10ปี และปรับตั้งแต่20,000 - 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด20 ปี และการเป็นสว.ตัวสำรอง ก็จะหลุดไปโดยปริยาย ซึ่งหากขาดคุณสมบัติจริง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง