อินเดียตีกัน ! ริมหาดพัทยา ในคืนสุดท้ายเทศกาลดิวาลี

อินเดียตีกัน ! ริมหาดพัทยา ในคืนสุดท้ายเทศกาลดิวาลี

View icon 959
วันที่ 13 พ.ย. 2567 | 13.26 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ชาวอินเดีย! ยกพวกรุมทำร้ายกันริมหาดพัทยา ในคืนสุดท้ายเทศกาลดิวาลี วงจรปิดจับภาพชัด ตร.เร่งตามเรียกสอบคู่กรณีหาสาเหตุ หลังไม่มาตามนัดสอบปากคำ

วานนี้ (12 พ.ย.67) นายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความ พาลูกความจำนวน 3 คน ผู้เสียหาย เข้าติดตามความคืบหน้าคดีกับ พ.ต.ท.สายใจ คำจุลลา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา หลังถูกชายกรรจ์ชาวอินเดียหลายคนรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ บริเวณชายหาดพัทยากลาง จ.ชลบุรี พร้อมมอบภาพวงจรปิดนาทีก่อเหตุให้ตำรวจไว้ใช้เป็นหลักฐาน และเอาผิดกับผู้ก่อเหตุทุกราย

นายดิโอ อายุ 46 ปี สัญชาติอินเดีย นายกสมาคมอินเดียชลบุรี เล่าว่า ทางสมาคมอินเดียรวมกันจำนวน 3 กลุ่ม ได้จับมือกันจัดงานเทศกาลดิวาลี ขึ้นเพื่อให้คนอินเดียในพัทยา และนักท่องเที่ยวได้ร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย. ที่บริเวณชายหาดพัทยากลาง โดยมีสมาคมอินเดียชลบุรี เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน ซึ่งภาพรวมของงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และกระแสตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวจากหลากหลายสัญชาติ

ในคืนสุดท้ายระหว่างที่ทีมงานกำลังเก็บอุปกรณ์ อยู่ ๆ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวอินเดียเข้ามารุมล้อมหาเรื่อง แล้วปรี่เข้ามาชกที่ใบหน้าหลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาห้าม จากนั้นคนในกลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามโทรตามพวกให้มาสบทบ ยกพวกมารุมทำร้ายอีกครั้งอย่างป่าเถื่อนกลางพื้นที่สาธารณะ

นายดิโอ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่ามีการวางแผนมาก่อน เพราะก่อนเริ่มจัดงานจำได้ว่าหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขับรถตามแอบถ่ายคลิป ถ่ายรูปตัวเองว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน เหมือนรายงานใครให้ทราบทุกย่างก้าว แต่ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกับใครมาก่อน จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านคนที่อยู่ในเหตุการณ์และถูกลูกหลง โดนทำร้ายเพราะเข้าไปห้ามปราม ต่างบอกว่า  เป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฏหมาย และถือว่าเป็นการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวเปิดรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น คนห้ามไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง เป็นเด็ก ก็โดนรัวหมัดไม่ยั้ง โดยที่ฝั่งผู้ก่อเหตุยกพวกมาเยอะมาก และรุมทำร้ายถึง 2 ครั้ง

นายอนิรุจน์ ทนายความ กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนนัดคู่กรณีรวมทั้งสิ้น 7 คน มาสอบปากคำ แต่ทางคู่กรณีไม่ยอมเดินทางมาตามกำหนดนัดแม้แต่คนเดียว โดยการกระทำดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นการทำที่อยู่เหนือกฏหมาย จึงอยากจะฝากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องหามาตรการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดกวดขันมากกว่านี้