เช้านี้ที่หมอชิต - คนร้ายที่ถอดรองเท้าไว้หน้าร้านทอง ก่อนลงมือชิงทองหนัก 4 บาท อ้างว่าอยากหาเงินไปหมั้นแฟนสาว หลังก่อเหตุขึ้นรถทัวร์ ปลายทางจังหวัดแพร่ แต่ไปไม่ถึงฝัน ถูกจับได้เสียก่อน
ตำรวจคุมตัว นายสมลักษ์ อายุ 32 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในร้านทองที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษพนักงานหญิงในร้าน หลังก่อเหตุชิงสร้อยทองน้ำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น แล้วเชิดหนี ตำรวจได้คุมตัวขึ้นรถไปสอบปากคำดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังสกัดจับได้บริเวณสี่แยกปลวกสูง ตำบลบ้านนา อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ขณะนั่งรถทัวร์โดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิต มุ่งหน้าจุดหมายปลายจังหวัดแพร่
ผู้ก่อเหตุบอกทีมข่าวว่า ให้การกับตำรวจไปแล้ว ส่วนเรื่องการถอดรองเท้าไว้หน้าร้าน เพราะเห็นป้ายให้ถอดรองเท้าก่อนเข้า ตนก็แค่ปฏิบัติตามป้ายเท่านั้น
จากการสอบสวน ผู้ก่อเหตุเดินทางไปเยี่ยมแม่ในพื้นที่ตำบลบางโทรัด จังหวัดสมุทรสาคร และมีความต้องการหาเงินไปหมั้นแฟนสาวที่ต่างจังหวัด จึงลงมือก่อเหตุชิงทอง เป็นสร้อยคอทองคำ 2 เส้น หนักเส้นละ 2 บาท รวมมูลค่า 171,600 บาท พอชิงทองแล้ว พยายามขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ต่อด้วยการขึ้นรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองมหาชัย นำทองไปขาย ได้เงินประมาณ 162,000 บาท เสร็จแล้วก็ขึ้นรถแท็กซี่ไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2 เพื่อขึ้นรถทัวร์โดยสารไปยังจังหวัดแพร่ แต่ถูกจับกุมได้เสียก่อน
ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา นายสมลักษ์ ความผิดฐาน "วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ" และนำตัว พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางโทรัด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป