ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปฏิบัติการsave กระรอกน้อย รวบ 3 ผู้ต้องหาซื้อเด็กจากเมียนมา บังคับใช้แรงงาน หากไม่พอใจทุบตี จนเด็กหนีออกจากบ้าน
วันนี้ ( 14 พ.ย.67 ) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. พร้อมตำรวจ กก.2 บก.ปคม. ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี, สำนักงานแรงงานจังหวัดชลบุรี ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 3 คน คือ น.ส.พรทิพย์ อายุ 65 ปี ,นายสมาน อายุ 50 ปี และน.ส.นาว ทา ทา ยี่ สัญชาติเมียนมา ในความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หรือรับไว้ซึ่งบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ตกลงกันไว้, ร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หรือรับไว้ซึ่งบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี
สืบเนื่องจากเด็กหญิง 8 ขวบ ถูกแม่ตี-ไล่ออกจากบ้านหอบตุ๊กตาคู่ใจนอนตากยุงในสุสานเพียงลำพัง ซึ่งได้ออกอากาศเผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2567 ซึ่ง พม.จังหวัดชลบุรี ไปรับตัวเด็กหญิงคนดังกล่าว ไปคุ้มครองสวัสดิภาพไว้ และจากการซักถามเบื้องต้นเชื่อว่าเด็กหญิง เป็นบุคคลต่างด้าว แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลใด ๆ กับเจ้าหน้าที่ เพราะบอบช้ำทาง ร่างกาย จิตใจ ตรวจบาดแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็งไม่มีคมบริเวณเล็บมือ นิ้วมือ และแขนขา บ่งชี้ว่าอาจเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ภายหลังจิตใจเด็กหญิง ดีขึ้นเริ่มให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ พบว่า เด็กหญิงเป็นคนสัญชาติเมียนมา เจ้าหน้าที่จึงพาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในคดีนี้
จากการสืบสวน ทราบว่า น.ส.นาว ทา ทา ยี่ ผู้ถูกจับที่ 3 เป็นผู้ที่เป็นธุระจัดหา ซื้อ เด็กหญิง มาจาก บิดามารดาจากประเทศเมียนมา และรับเป็นลูกบุญธรรมเป็นนิติกรรมอำพราง จากนั้นพาเด็กหญิงหลบหนีเข้าไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติ ที่จังหวัดตาก ส่งตัวเด็กให้กับผู้ถูกจับที่ 2 ก่อนจะส่งตัวไปยังบ้านพักของ น.ส.พรทิพย์ ผู้ถูกจับที่ 1 ที่จังหวัดชลบุรี เพื่อให้ทำงานบ้านทำความสะอาด หุงข้าว เลี้ยงสุนัข ถ้าเด็กไม่ทำตามก็จะทำโทษ ใช้กำลังประทุษร้าย โดยการใช้ไม้ตี ขังในบ้าน ไม่ให้กินข้าว
ที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. จึงรวบรวมหลักฐานขอออกหมายค้นบ้านของ น.ส.พรทิพย์ และได้ช่วยเหลือเด็กหญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งได้ทำงานอยู่ในบ้านดังกล่าวออกมา และเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยการบังคับแรงงานเช่นกัน พร้อมยึดหลักฐานกล้องวงจรปิดในบ้านมาตรวจสอบ ซึ่งพบหลักฐาน เด็กหญิงอีก 1 คน เป็นแรงงานที่ทำงานอยู่ในบ้าน แต่หลบหนีไปขณะที่ตำรวจกำลังจะเข้าตรวจค้น รวมถึงบันทึกภาพขณะที่ น.ส.พรทิพย์ กำลังขู่ตะคอก ทุบตีเด็กเมื่อทำงานผิดพลาด