สาวร้องสายไหมต้องรอด เอาผิดหมอทหารเก๊ หลอบคบซ้อน-สูบเงิน เสียหายนับล้าน

สาวร้องสายไหมต้องรอด เอาผิดหมอทหารเก๊ หลอบคบซ้อน-สูบเงิน เสียหายนับล้าน

View icon 47
วันที่ 16 พ.ย. 2567 | 13.44 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สาวพยาบาล ร้อง "สายไหมต้องรอด" เอาผิดหนุ่ม อ้างเป็น "หมอทหาร" หลอกคบหา คบซ้อนสับรางผู้หญิงหลายคน รวมมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท

16 พ.ย. 67 น.ส.เนย อายุ 27 ปี และน.ส.เบล อายุ 29 ปี ตัวแทนผู้เสียหายที่ถูกนายแบงค์ อายุ 32 ปี ซึ่งอ้างเป็นแพทย์ทหารหลอกคบหา จนเสียหาย รวมกันแล้วหลายล้านบาท

น.ส.เนย เล่าว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2562 ตนได้เล่นแอปพลิเคชันหาคู่ จนเจอเข้ากับนายแบงค์ และมีการพูดคุย จนตกลงคบหาดูใจกัน โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่คบหากัน นายแบงค์ อ้างว่าประกอบอาชีพเป็นแพทย์ทหารที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านบางนา มีบางครั้งตนก็ไปส่ง - ไปรับ โดยที่ไม่ได้เอะใจอะไร และนายแบงค์ ยังให้เธอออกค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้เกือบทั้งหมด รวม ๆ แล้ว มากกว่า 1 ล้านบาท

กระทั่ง เริ่มจับได้ว่า นายแบงค์มีการออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ อย่างละ 1 คัน รวมทั้งบัตรเครดิต 8 ใบ วงเงินขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุด 200,000 บาท โดยผู้ที่ออกให้เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง จนทำให้เธอเกิดอาการหึงหวง ก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน และนายแบงค์ได้ข่มขู่ ลงมือทำร้ายร่างกายตนอยู่หลายครั้ง รวมทั้งขู่ว่าจะทำร้ายแมว แต่ทุกครั้งตนก็ไม่เคยแจ้งความ จนฟางเส้นสุดท้ายมาถึง เพราะตนทนไม่ไหวที่ต้องออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ จึงตัดสินใจเลิกรากันไป

จากนั้น นายแบงค์ ก็ได้มาคบหากับ น.ส.เบล ได้เพียงแค่ 6 เดือน พฤติกรรมของนายแบงค์ ก็เหมือนเดิม คือมีการให้ฝ่ายหญิงจ่ายค่าใช้จ่ายประจำวัน โดยอ้างว่านายยังไม่เซ็นให้ ทำให้เงินเดือนยังไม่ออก กระทั่งเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายแบงค์ได้ไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี และชวนเธอพร้อมผู้หญิงอีก 2 คน ไปร่วมงานบวชด้วย โดยนายแบงค์ ได้รวมหัวกับแม่ ในการใช้กลอุบายสับรางบอกกับผู้หญิงแต่ละคนว่า เป็นเลขาส่วนตัว จนเธอมาจับได้เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้วว่า นายแบงค์ไม่ได้คบหากับตนเพียงคนเดียว และไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นแพทย์ จึงได้มีการขอเลิกรา แต่นายแบงค์ ก็ยังไม่ยินยอม โดยมีการข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย

ผู้เสียหายทั้งสองคนยังบอกอีกว่า นายแบงค์ มักเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาวบุคลากรทางการแพทย์ และช่วงเวลาที่คบหากัน นายแบงค์ได้โน้มน้าวให้พาไปทำพิธีกรรมผูกดวงที่ตำหนักแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สระบุรี โดยนายแบงค์อ้างว่า เจ้าตำหนักเป็นพราหมณ์ที่อยู่ในวัง มีการผูกสายสิญจน์ที่แขน ปิดทองที่หน้าผาก และทันทีที่มาทำพิธีชีวิตของแต่ละคนก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากมีหน้าที่การงานและการเงินดี ก็เริ่มมีปัญหาในหน้าที่การงานและการเงิน

ผู้เสียหายทั้งสองคนได้ฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ว่า ขอให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนจะคบหาดูใจกับใคร และอย่ารักใครจนหน้ามืดตามัว

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไมต้องรอด เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้นายแบงค์ เจตนาที่จะหลอกตั้งแต่แรก ซึ่งเข้าข่ายเจตนาฉ้อโกง โดนหลังจากนี้ตนจะประสานไปยัง สภ.สำโรงเหนือ ที่ผู้เสียหายไปแจ้งความมาแล้ว รวมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้เสียหายที่ถูกนายแบงค์หลอกติดต่อมาให้ข้อมูลได้ที่เพจสายไหมต้องรอดได้ทุกเมื่อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง