เงิน 10,000 บาท "ดิจิทัลวอลเล็ต" เฟส 2 มีความชัดเจนแล้วว่า ผู้ที่จะได้รับเงิน 10,000 บาทเป็นกลุ่มถัดไป ต้องเป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และได้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะมีประมาณ 3-4 ล้านคน จะใช้วงเงินงบประมาณไม่เกิน 40,000 ล้านบาท และน่าจะเริ่มแจกเงิน 10,000 ได้ในช่วงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า หรือก่อนเทศกาลตรุษจีน 2568
อ่านข่าว : รัฐบาลเคาะแจกเงินหมื่น เฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปีรับก่อนตรุษจีน
อย่างไรก็ตาม จากมติครม. ดังกล่าว สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนหลายๆ คนที่รอรับเงิน 10,000 โดยทีมข่าวช่อง 7HD ลองไปสอบถามทั้งคนที่ลงทะเบียนไปแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน แต่ละคนก็ทวงถาม เมื่อไหร่จะถึงคิว เพราะอยากได้เงินไปช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวเหมือนกัน หวังว่ารัฐบาลจะไม่ลืมคำมั่นสัญญา
อ่านข่าว : อายุ 60 ปีขึ้นไป รอรับเงิน 1 หมื่นบาท ตรุษจีน
ขณะเมื่อสำรวจคอมเมนต์บนสื่อโซเชียลมีเดียเรียกว่าเกิดกระแสทัวร์ลงสนั่น ทั้งเฟซบุ๊ก ติกตอก มีประชาชนแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือด อาทิบนเพจเฟซบุ๊กของพรรคเพื่อไทย ก็เข้าไปทวงถาม จี้ควรทำถามที่หาเสียงไว้ ว่าจะให้เงิน 10,000 บาท กับทุกคนตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป ขณะผู้สนับสนุนพรรคบางคนถึงกับโพสต์ตัดพ้อ อย่าทำให้ต้องผิดหวัง หลังต้องรอเก้อไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ในรอบนี้
ส่วนคอมเมนต์ในติกตอก ก็เดือดไม่แพ้กัน บางคนบอก เป็นวัยทำงาน มีครอบครัวต้องดูแล มีภาระเช่นเดียวกัน แต่กลับไม่ได้รับเงิน 10,000 ถูกลอยแพเสียอย่างนั้น ทั้งที่ลงทะเบียนตั้งแต่รอบแรกที่เปิดให้ลงบนแอปฯ ทางรัฐ นอกจากนั้น หลายคอมเมนต์ต่างตัดพ้อเหน็บแรง ไม่อยากได้แล้วเงิน 10,000 บาท แต่อยากได้ "นายกฯ คนใหม่" แทน
ก็เรียกว่าเป็นเสียงสะท้อนของประชาชนที่ขอส่งไปถึงรัฐบาล อยากให้ทำตามที่หาเสียงไว้ เงิน 10,000 บาท ได้ทุกคน อย่างที่ นายกฯ แพทองทองธารเคยกล่าวไว้เมื่อครั้งพรรคเพื่อไทยหาเสียงช่วงเลือกตั้ง ว่า "คนไทยมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกินมีใช้ ไปพร้อมๆ กัน"
อย่างไรก็ตาม คืบหน้าล่าสุดวันนี้ (20 พ.ย.67) ทางด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณี เงิน 10,000 ในส่วนของกลุ่มประชาชนทั่วไป โดยระบุว่า สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ไว้แล้ว ในระยะต่อไปหรือเฟสที่ 3 คาดจะจ่ายเงินให้ได้ในช่วงเดือน เม.ย. - มิ.ย. 68 ซึ่งจะสอดคล้องกับแอปฯ ทางรัฐที่สามารถใช้งานได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 68
ส่วนกลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟนที่ยังไม่เคยลงทะเบียนใดๆ มาก่อน ต้องรอความชัดเจน จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวัน