2 พ่อลูกดับปริศนาคาบ้าน โยงความเชื่อทางไสยศาสตร์

2 พ่อลูกดับปริศนาคาบ้าน โยงความเชื่อทางไสยศาสตร์

View icon 136
วันที่ 27 พ.ย. 2567 | 19.36 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี หลังพบร่าง 2 พ่อ – ลูก ดับปริศนาคาบ้านพัก ญาติผู้เสียชีวิตให้ข้อมูล 1 ในผู้เสียชีวิต มีความเชื่อด้านไสยศาสตร์

วันนี้ ( 27 พ.ย. 67 ) ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุพบศพในบ้านหลังกำแพงสนามบินกองทัพภาคที่ 4 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในมีแท่นบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในห้องพบร่างเป็นหญิง เสียชีวิตมาแล้วมากกว่า 10 วัน สภาพเน่าเฟะ ทราบชื่อคือนางสาวเกศชฎา อายุ 57 ปี นอกจากนี้ยังมีที่นอนเก่าเปื่อยยุ่ย บนพื้นมีมุ้งเก่าปิด มีกลิ่นเหม็นสาบ ปรากฏว่าเมื่อรื้อภายในบ้าน กลับพบว่ายังมีอีก 1 ศพ ที่เสียชีวิตมาแล้วมากว่า 2-3 เดือน สภาพเนื้อเยื่อยเปื่อยแห้งกรัง เหลือเพียงบางส่วน ทราบชื่อคือ นายสำเริง อายุ 87 ปี จาการสบสวน พบว่าทั้ง 2 คนเป็นพ่อลูกกัน

สอบถามญาติของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า เมื่อหลายเดือนก่อนนางสาวเกศชฎา ไปรับพ่อมาดูแลที่บ้าน แต่หลังจากนั้นเมื่อมีใครมาเยี่ยม จะไม่ยอมให้ใครเข้าไปในบ้าน จนหลายเดือนผ่านไปไม่มีใครทราบข่าวอีก เพราะผู้ตายไม่ยอมติดต่อใคร จนกระทั่งมีญาติตัดสินใจมาดูที่บ้าน กลับพบกลิ่นเหม็นเน่าโชยอย่างรุนแรง และพบทเสียชีวิตดังกล่าว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ทั้งนี้ตำรวจประสานต้องนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ไปตรวจสอบหาสาเหตุการตายอย่างละเอียด และเร่งรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อประกอบการสืบสวนสอบสวน ทำสำนวนคดีไต่สวนสาเหตุการตายไปตามขั้นตอนแล้ว

ด้านลูกชาย อีกคนของนายสำเริง ให้ข้อมูลว่า นางเกศชฎา พี่สาว รับพ่อซึ่งอยู่ในวัยชรา และป่วยติดเตียงมาอยู่ด้วย ที่ผ่านมาพี่สาวจะไปขอเงินเพื่อมาเลี้ยงดูพ่อมาโดยตลอด พยายามขอไปเยี่ยมพ่อ แต่พี่สาวไม่เคยยอมมักจะอ้างว่าดูแลพ่ออย่างดี กระทั่งมีญาติมาพบว่าพ่อเสียชีวิต ในสภาพแห้งกรัง นอกจากนี้ญาติยังให้ข้อมูลอีกว่า นางเกศชฎา นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่านายสำเริง น่าจะเสียชีวิตมานานแล้ว แต่นางเกศชฎาฯ ไม่ยอมบอกญาติเพราะความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์บางอย่าง จนกระทั่งตัวเองเสียชีวิตจนเรื่องแดงขึ้น ส่วนสาเหตุทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัด จึงจะมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างละเอียด ส่วนนางเกศชฎาอาจจะประสบอุบัติเหตุลื่นล้มศีรษะฟาดพื้น หรืออาจจะเป็นลมแล้วไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งนี้จะส่งศพทั้ง 2 คน ไปชันสูตรหาสาเหตุที่ศูนย์นิติเวช รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง