หญิงซิ่งกระบะชนแล้วหนี ส่องคดีวุ่น

View icon 49
วันที่ 29 พ.ย. 2567 | 16.44 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สาวใหญ่อาการคล้ายคนเมาซิ่งรถกระบะ ไปชนรถยนต์ที่ขับอยู่ดี ๆ แล้วหนี ผู้เสียหายขับตามจนทัน ถ่ายคลิปคนขับไว้ได้ชัดเจน คนขับยอมรับว่าชน แล้วบอกว่า "ขอโทษค่ะ" จากนั้นก็ซิ่งรถหนีต่อ ผู้เสียหายพยายามขับตาม แต่ขับไม่ทันเพราะมีลูกน้อยวัย 3 ขวบนั่งรถมาด้วย

ในคลิปจะเห็นผู้เสียหายพยายามขับตามรถผู้ก่อเหตุ พอขับตามทัน ผู้เสียหายพูดว่า "พี่คะ พี่ชนแล้วหนีค่ะ" ผู้ก่อเหตุตอบว่า "ใช่ค่ะ พี่ขับรถชน ขอโทษค่ะ" จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถหนีไปได้

เรื่องนี้อาจมองเป็นแค่การขับรถชนแล้วหนีธรรมดา แต่ที่จริงแล้วมันมีอะไรลึกซึ้งมากกว่านั้น เนื่องจากรถคันที่ก่อเหตุได้มีการแจ้งหายไว้ที่ สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี แปลว่า ถ้าหากรับจับคนขับคันก่อเหตุได้ อาจจะโยงไปถึงขบวการลักรถและนำรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้านรายใหญ่ได้

นายสุทัศน์ เณรชู อายุ 34 ปี พร้อมด้วย นงลักษณ์ จันทสุข อายุ 32 ปี สองสามีภรรยา เข้าร้องขอความเป็นธรรมจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขอให้ช่วยติดตามคดี ที่รถตนถูกผู้หญิงขับชนแล้วหนี เนื่องจากคดีนี้ซับซ้อน พอโทรศัพท์ถามตำรวจก็ไม่มีคำตอบให้ ล่าสุดตำรวจไม่รับโทรศัพท์แล้ว

นายสุทัศน์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 ประมาณ 22.00 น. ขณะที่ตนกำลังขับรถพาเมียและลูกวัย 3 ขวบกลับบ้านพักย่านสายไหม ระหว่างทางบริเวณคลอง 5 ธัญญะบุรี ถนนรังสิตนครนายก รถตนได้ถูกรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน งว-4042 ซลบุรี ขับมาชนอย่างแรงบริเวณข้างขวาทั้งแถบ ทำให้รถตนเสียหลักเกือบตกคลองข้างทาง จากนั้นรถคันก่อเหตุได้เร่งเครื่องหนีไป ตนจึงได้เร่งเครื่องขับรถตาม ไปตามทันเอาบริเวณคลอง 3 ภรรยาตนจึงเปิดกระจกถามไปว่า "ชนแล้วหนีทำไม"

รถคันก่อเหตุก็ยอมรับว่าขับชน แล้วตอบกลับมาว่า "ขอโทษค่ะ" ตนสังเกตเห็นว่าเป็นผู้หญิงคนขับ มีอาการคล้ายคนเมา ตอนแรกคิดว่าเขาจะจอดรถลงมาเคลียร์กัน  แต่เขากลับเร่งเครื่องหนีไป ตนก็พยายามขับตามไปอีก แต่ตามขับไม่ทัน เนื่องจากในรถตนมีมีลูกน้อยวัย 3 ขวบอยู่ด้วย

ตนจึงย้อนรถกลับไป แจ้งความไว้ที่ สภ.ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี และนำหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนทั้งหมด ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้เรียกเจ้าของรถคันก็เห็นมา ปรากฏว่ารถคันนี้ เจ้าของรถได้แจ้งหายไว้วันที่ 21 สิงหาคม 2567 โดยเจ้าของรถได้อ้างว่า ได้นำรถคันนี้ไปจำนำไว้กับนายทุนในเพจ Facebook จากนั้นพอจะนำเงินไปไถ่รถออกมา กลับติดต่อคนรับจำนำไม่ได้ และเพจ Facebook ดังกล่าวหนีไป

ตนได้พยายามติดต่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เป็นประจำว่าคดีไปถึงไหนแล้ว เพราะรถชนเสียหายทั้งแถบ แต่ตำรวจก็ไม่มีคำตอบอะไรให้ แถมยังให้ตนจ่ายค่าช่างที่มาตรวจสอบความเสียหายของรถอีก 1,000 บาทอีก ตนรู้สึกงง ๆ รถก็เสียหายต้องมาเสียเงินค่าตรวจสภาพรถอีก เรื่องคดีก็บอกให้รอ จนล่าสุดตำรวจไม่รับสายตนแล้ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นางสาวมนัญชยา เจ้าของรถคันที่ก่อเหตุ ได้ข้อมูลว่า ตนได้นำรถยนต์กระบะอีซูซุสีดำสี่ประตูคันที่ก่อเหตุ ไปจำนำกับนายทุนในเพจเฟสบุ๊คที่ชื่อว่า "มะนาวหวาน" ไว้เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 ในราคา 20,000 บาท (ที่จำนำถูกเพราะจะใช้เงินแค่2วัน) โดยมีผู้ชายมารับรถไปบริเวณปั๊มน้ำมัน จากนั้นเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ตนได้ติดต่อนายทุนไปเพื่อจะไถ่รถคืน แต่นายทุนกลับ ขอให้ไปถ่ายในวันที่ 17 สิงหาคม 2567 ตนก็ยินยอม แต่พอถึงเวลาที่นัดหมายไว้กับติดต่อนายทุนไม่ได้แล้ว ตนพยายามทักไปในเพจ Facebook ปรากฏว่า Facebook ถูกปิดหนีไปแล้ว วันที่ 23 สิงหาคม 2567 ตนจึงแจ้งความรถหายไว้ ที่ สภ.บ่อวิน จังหวัดชลบุรี และตนได้ตามเรื่องมาตลอด แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งมีตำรวจ สภ.ธัญบุรี ติดต่อเข้ามาว่าพบรถตนเองตนเองกระทำความผิด ตนจึงไปให้ข้อมูล ทำให้ตนยังแอบมีหวังว่าจะได้รถที่หายไปคืน เพราะช่วงรถหายใหม่ ๆ ตนร้องไห้ทุกวัน นี่ผ่านมาหลายเดือนแล้วเลยพอทำใจได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง