ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากก่อนหน้านี้มีกรณีชาวบ้านเข้าแจ้งความอ้างว่า ถูกตำรวจรุมทำร้ายร่างกาย ทั้งที่มาแจ้งเบาะแสยาเสพติด ล่าสุด ผู้กำกับการ สภ.แก้งคร้อ ออกมาเปิดคลิปหลักฐานโต้ ยืนยันตำรวจไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่เป็นเพราะชายคนนี้เมา มาแจ้งความจับญาติ แต่ทำท่าจะทำร้ายเจ้าหน้าที่
กรณีที่ นายวิโรจน์ ชาวบ้านชุมชนโนนสมอ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เข้าแจ้งความ สภ.แก้งคร้อ อ้างว่าตัวเองถูกตำรวจงานป้องกันและปราบปราม สภ.แก้งคร้อ รุมทำร้ายร่างกาย ชกต่อย กระทืบและถูกจับใส่กุญแจมือบริเวณบันไดทางขึ้นโรงพัก ก่อนจะลากไปตามถนนหน้า สภ.แก้งคร้อ แล้วนำตัวไปสอบสวนที่ห้องทำงานป้องกันและปราบปรามข้าง ๆ โรงพัก ทั้ง ๆ ที่ตัวเองมาแจ้งเบาะแสยาเสพติด
หลังถูกทำร้าย ตำรวจยังสอบปากคำตลอดทั้งคืน ไม่พาไปโรงพยาบาล ก่อนยัดข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ ไม่ให้ประกันตัว ให้นอนห้องขัง 1 คืน เหตุเกิดวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
จากนั้น วันที่ 29 พฤศจิกายน นายวิโรจน์ เข้าแจ้งความเอาผิดนายตำรวจ ยศร้อยตำรวจตรี และลูกน้อง ที่รุมทำร้าย
ล่าสุด พันตำรวจเอก นิรันดร์ คิดบรรจง ผู้กำกับการ สภ.แก้งคร้อ อัดคลิปชี้แจง ตำรวจไม่ได้ทำร้ายร่างกายนายวิโรจน์ สิ่งที่นายวิโรจน์พูดมานั้นไม่เป็นความจริง
ผู้กำกับการ สภ.แก้งคร้อ ระบุว่า ตำรวจขอแก้ข่าว ไม่ได้แก้ตัว ที่มาที่ไปของเหตุการณ์ วันที่ 27 พฤศจิกายน นายวิโรจน์มาที่ สภ.แก้งคร้อ บอกว่า ไปทวงหนี้จากลูกหนี้ที่บ้านหนองแสง ตำบลช่องสามหมอ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ และไปมีเรื่องกับญาติของลูกหนี้ แล้วมาแจ้งความ บอกว่าญาติของลูกหนี้มั่วสุมเสพยาเสพติด
จากนั้นพนักงานสอบสวน แจ้งให้ร้อยเวรมาควบคุมสถานการณ์ เนื่องจากนายวิโรจน์มีอาการเมาสุรา เอะอะโวยวาย ทำตัววุ่นวาย เดินเข้าเดินออกห้องพนักงานสอบสวนเวร
ซึ่งอยู่คนละห้องกับเสมียนเวรที่รับแจ้งความ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้ที่มาติดต่อราชการ พอสายตรวจมาถึง นายวิโรจน์มีพฤติกรรมก้าวร้าว บอกสายตรวจว่า ถ้าไม่ไปจับญาติของลูกหนี้ จะเอาปืนไปยิงวัยรุ่นกลุ่มนั้นด้วยตัวเอง
ก่อนที่ นายวิโรจน์ จะเดินเข้ามาใกล้กับสายตรวจนายหนึ่ง พูดจาไม่สุภาพ ทำท่าจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ สายตรวจจึงใช้ควบคุมตัวนายวิโรจน์ตามยุทธวิธี ไม่ได้มีการชกต่อย มีภาพจากกล้องที่ติดหน้าอกตำรวจยืนยันได้ บาดแผลตามใบหน้าของนายวิโรจน์ เกิดจากการขัดขืนการจับกุม ถ้ายอมให้จับแต่โดยดี ก็ไม่น่าจะมีบาดแผล ตำรวจไม่มีเจตนาทำร้ายแต่อย่างใด
ตำรวจคุมตัวไปดำเนินคดี แจ้งข้อดูหมิ่นเจ้าหน้าที่และตรวจวัดแอลกอฮอล์ได้สูงถึง 236 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ส่วนที่นายวิโรจน์อ้างว่า ตำรวจไม่ให้ประกันตัวนั้น ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงถูกจับ ไม่มีญาติของนายวิโรจน์มาขอประกันตัว กระทั่งวันที่ 28 พฤศจิกายน ญาติมาติดต่อขอประกัน ตำรวจก็ให้ประกันตัวแต่โดยดี
คดีนี้ศาลตัดสินจำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จำคุก 2 เดือน ปรับ 2,000 บาท คดีเสพสุราประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะ ปรับ 500 บาท จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1,250 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปี
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ยังมีประวัติเมาแล้วขับ ศาลพิพากษาไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน 2566 จำคุก 2 เดือน ปรับ 6,500 บาท โทษจำรอลงอาญา 2 ปี คุมประพฤติ 3 ครั้งภายใน 1 ปี แต่เมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2567 นายวิโรจน์ผิดเงื่อนไขการคุมประพฤติ อาจจะต้องถูกออกหมายจับดำเนินคดี
ยังมีคดีอาญาที่ สภ.ช่องสามหมอ เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ถูกจับในข้อเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ศาลปรับไป 2,000 รอลงอาญา 2 ปี