ญาติร้อง น้องชายถูกรองสารวัตรสอบสวนขับรถชน ไม่ช่วยเหลือ ไม่ให้เบิกค่ารักษาพยาบาล พ.ร.บ. ต้องแบกรับค่ารักษาพยาบาลเกือบ 1 แสนบาท เพราะเลือดออกในสมอง แขนขาหัก
วันนี้ ( 3ธ.ค.67) ญาติของนายพีรพล อายุ 29 ปี เข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองบังคับการปราบปราม หลังน้องชายถูกตำรวจขับรถชน บริเวณถนนสายหลัก จังหวัดปราจีนบุรี ขณะกำลังเดินอยู่ริมถนน ได้รับบาดเจ็บเลือดออกในสมอง แขนซ้ายหัก ต้นขาข้างขวาหัก อาการสาหัส แต่คู่กรณีที่เป็นตำรวจ ยศรองสารวัตรสอบสวน กลับไม่รับผิดชอบ กล่าวหาว่าน้องชายกระโดดตัดหน้ารถ จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากครอบครัวต้องแบกรับค่ารักษาพยาบาลเกือบ 1 แสนบาท แต่จ่ายไปเพียง 5,000 บาท เพราะไม่มีเงิน และคู่กรณีไม่อนุญาตให้เบิกค่ารักษาจาก พ.ร.บ.รถฯ
ญาติของผู้บาดเจ็บเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คู่กรณีเป็นตำรวจ ที่ สภ.ศรีมโหสถ สภ.ท้องที่ที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุทางโรงพยาบาลให้มาขอเอกสาร พ.ร.บ.รถ คู่กรณี เพื่อจะเบิกค่ารักษาพยาบาล ก็ได้รับการปฏิเสธ บอกว่าไม่ผิด ไม่ให้เบิก และน้องชายกระโดดใส่รถเอง โดยคู่กรณีไปแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าน้องเป็นซึมเศร้า ตนจึงพยายามไปหาหลักฐานกล้องวงจรปิด า ยืนยันว่าน้องชายไม่ได้กระโดดใส่รถ
ครอบครัวไปแจ้งความ ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ โดยบอกว่า อุบัติเหตุจราจรประชาชนไม่ต้องแจ้งความ เพราะตำรวจรับแจ้งไว้อยู่แล้ว แต่ครอบครัวติดใจในรายละเอียดว่าลงเกี่ยวกับพฤติการณ์ไว้อย่างไร น้องถึงไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งครอบครัวยังติดใจในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ร้อยเวรเจ้าของคดีก็เป็นหัวหน้างานของตำรวจคู่กรณี และคู่กรณีเป็นคนเอารถไปตรวจพิสูจน์หลักฐานเองด้วย พอไปสอบถามว่าผลตรวจพิสูจน์หลักฐานไปถึงไหน ก็ไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ญาติของผู้บาดเจ็บ ยืนยันว่าแม้น้องชายรับประทานยาจิตเวช ซึมเศร้ามานาน 4-5 ปีแล้ว แต่อาการคงที่ สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ไม่มีพฤติกรรมทำร้ายคนอื่นหรือฆ่าตัวตายใด ๆ ไม่มีเหตุให้ต้องกระโดดใส่รถคู่กรณี และตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะน้องชายบาดเจ็บสาหัส แม้น้องจะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ก็ต้องผ่าตัดใส่เหล็กที่ขา และยังเดินไม่ได้ ครอบครัวไม่มีรายได้ที่จะหาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาล ตำรวจไม่เคยไปเยี่ยมดูอาการน้อง เมื่อติดต่อขอให้มาไกล่เกลี่ยก็ไม่มา บอกแค่ว่าไม่ผิด แถมยังข่มขู่พ่อน้องว่าจะแจ้งความกลับ หากจะมาเอาผิดตำรวจคู่กรณี หรือมาเบิกค่ารักษาพยาบาลจาก พ.ร.บ.รถคู่กรณี และยังบอกว่าน้องทำให้รถคู่กรณีเสียหายด้วย
ทุกวันนี้ พ่อของผู้บาดเจ็บ เหมือนตายทั้งเป็น เพราะเป็นแค่ประชาชนธรรมดา ไม่มีทางสู้ จึงไม่ยืนยันว่าจะขอแค่ค่าเสียหาย ขอดูรูปคดีอีกครั้งว่าจะเข้าเป็นคดีความผิดอาญาหรือไม่ด้วย เพราะที่ผ่านมาก็ให้โอกาสคู่กรณีมาพูดคุยหลายครั้งแล้ว แต่ถูกปฏิเสธมาตลอด