วันนี้ (3 ธ.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) นำโดย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. พร้อม พ.ต.ท.ไสว จันทร์มา สว.กก.4 บก.ปปป. , พ.ต.ต.อัครพล ปัทมานุสรณ์ สว.กก.4 บก.ปปป. และ ทีมงาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นำหมายค้นของศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ ค.อท.1/2567 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 67 เข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ พร้อมเข้าจับกุมตัว นายอัตพร (สงวนนามสกุล) อดีตพนักงานพัฒนาธุรกิจ ระดับ 7 ธนาคารของรัฐแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ.21/2567 ลงวันที่ 25 ต.ค. 67 ในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริตในหน้าที่ราชการ รวมถึงการฉ้อโกงและการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
พ.ต.อ.ศานุวงษ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาคนนี้ได้ให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณเดือน เม.ย. 56 เคยดำรงตำแหน่งพนักงานพัฒนาธุรกิจ ระดับ 7 ธนาคารของรัฐ ใน อ.ท่าตะโก ระหว่างปี 2556 - 2559 ได้กระทำการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ในด้านสินเชื่อหลายกรณี ประกอบด้วย ปี 2556 ได้ใช้บัตรเอทีเอ็มของผู้อื่น โดย นายอัตพรอ้างเหตุฉุกเฉินส่วนตัวให้ผู้เสียหายยอมกู้เงินแทน และมอบบัตรเอทีเอ็มพร้อมรหัส ซึ่งผู้เสียหายไม่ประสงค์กู้เงินจริง และต้องพาถอนเงิน 20,000 บาท มาใช้ส่วนตัวโดยมิชอบ และกระทำซ้ำรูปแบบเดิมอีกหลายครั้ง โดยเบิกถอนเงินผ่านบัตรเอทีเอ็มที่ยืมมาเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
จากนั้น ปี 2557 ปลอมแปลงสัญญาเงินกู้ โดยผู้เสียหายลงชื่อในเอกสารสัญญากู้เงินโดยไม่ได้กรอกข้อมูลรายละเอียด เงินกู้ 100,000 บาท ถูกโอนเข้าบัญชีผู้เสียหาย แต่ถูกถอนโดยผู้ต้องหา โดยผ่านบัตรเอทีเอ็ม รวม 95,000 บาท และในปีเดียวกัน ก็ยังปลอมแปลงสัญญาเงินกู้ ซึ่งผู้ต้องหาทำสัญญาเงินกู้ 60,000 บาท โดยให้ผู้เสียหายลงชื่อโดยไม่ทราบรายละเอียด และถอนเงินทั้งหมดโดยมิชอบ
ต่อมาปี 2558 สร้างเอกสารมอบอำนาจหลอกลวง ทำให้ผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงชื่อในสัญญากู้เงิน 200,000 บาท พร้อมเอกสารมอบอำนาจที่ว่างเปล่า จากนั้นผู้ต้องหาถอนเงินทั้งหมดมาใช้ จากนั้นในปีเดียวกันนี้ ใช้เงินจากสัญญากู้ซ้ำ เป็นสัญญาเงินกู้ 150,000 บาท ถูกปลอมแปลง และเงินในบัญชีของผู้เสียหายถูกถอนออกทั้งหมดโดยผู้ต้องหา นอกจากนี้ยังมีการเรียกรับค่าทำเอกสารโดยมิชอบ โดยทำสัญญาเงินกู้ 590,000 เพื่อซื้อรถไถนา ให้ผู้เสียหายโดนเรียกค่าทำสัญญาเป็นเงิน 30,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่มีให้ ผู้ต้องหาจึงขอรับเงินจำนวน 3,560 บาท อ้างว่าเป็นค่าทำเนียม แล้วนำมาใช้ส่วนตัวโดยมิชอบ
รวมผู้เสียหาย ซึ่งเป็นชาวบ้านเสียหายกว่า 7 คน ความเสียหายกว่า 5 แสนบาท จนรวมตัวร้องเรียนไปยังตำรวจ บก.ปปป. ให้มีการตรวจสอบและดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. จึงได้ร่วมกันสืบสวนกระทำดังกล่าวของผู้ต้องหา ที่มีการการอาศัยโอกาสที่ตนเองมีอำนาจหน้าที่ขู่เข็น หลอกลวงชาวบ้านที่มากูยืมเงินเพื่อไปทำมาหากิน แต่กลับต้องถูกเจ้าหน้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจในการเรียกรับเงินและหลอกให้กู้เงินมาให้ โดยที่ชาวบ้านไม่รู้ตัว ด้วยความเชื่อมั่นและเชื่อใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงได้ทำการออกหมายจับ สืบสวนจนพบตัว และทำการจับกุมในครั้งนี้
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา การใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 8, 9 และ 11 ของ พ.ร.บ. ความผิดของพนักงานในองค์การของรัฐ, การละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 123/1 ของ พ.ร.ป. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต, การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ตามมาตรา 188, 269/5 ตามประมวลกฎหมายอาญา และ ความผิดฐานฉ้อโกง ตามมาตรา 341 ตามประมวลกฎหมายอาญา