ตำรวจออกหมายจับ 3 แก๊งทวงหนี้โหด ถือปืนทวงเงินท้าทายกฎหมาย คาด 3 วันรวบได้ยกแก๊ง
จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเหตุอุกอาจกลางวันแสกๆ ถือปืนทวงเงินท้าทายกฎหมาย จุดเกิดเหตุห่างจากสถานีตำรวจภูธรสมเด็จเพียง 2 กม. เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นผู้ก่อเหตุขับรถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีขาว และรถที่ผู้ก่อเหตุขับอีกคันสีดำ อีซูซุตอนครึ่ง มีกระเป๋าลาก 2 ใบที่ท้ายกระบะ ผู้ก่อเหตุมา 4-5 คน มาขู่เอาเงินสามพันกว่าบาท มายิงปืนขู่หน้าร้านซ่อมช่วงบ่ายโมงของวันที่เกิดเหตุแล้วขับรถหนีเข้าไปทางบ้านคำกั้ง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อสอบถามผู้เสียหายว่ามีปัญหาอะไรกับใครหรือไม่ บอกเคยซื้อเครื่องนวดเมื่อ 5 ปีที่แล้วแต่ยังไม่จ่ายเงิน นอกนั้นก็ไม่มีปัญหากับใคร ผู้โพสต์ในกลุ่มสมเด็จออนไลน์น่าจะเป็นหลานของผู้เสียหายโพสต์ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (3 ธ.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของการติดตามตัวแก๊งทวงหนี้โหดมาดำเนินคดี ทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ให้ข้อมูลว่าลูกชายเจ้าของบ้านที่ถูกแก๊งทวงหนี้มาข่มขู่นั้นได้ซื้อเครื่องนวดไฟฟ้าแบบผ่อนชำระเป็นรายปี แต่คงเป็นเพราะเบี้ยวไม่จ่ายตามนัดก็เลยถูกตามทวงหนี้อย่างที่เห็นเป็นข่าวดัง
พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรสมเด็จ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ความคืบหน้าของการติดตามดำเนินคดีนี้ จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบ จนบ่ายวันนี้ ได้ออกหมายจับ 3 ผู้ต้องหา ใน 4 ข้อหาคือ พกพาอาวุธปืนไปในพื้นที่สาธารณะ, ข่มขู่, บุกรุก และยิงปืน ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตามจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ภายใน 3 วัน เพราะเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ
ทางสายสืบโซเชียลก็ได้เพิ่มเติมมาอีกว่า แก๊งทวงหนี้ดังกล่าวคาดจะเป็นบริษัททวงหนี้มาจากจังหวัดนครราชสีมา เป็นห้างหุ้นส่วนโลโก้ตราเพชร โดยจะมีสำนักงานกระจายอยู่จังหวัดอุดรธานี, ขอนแก่น และ ร้อยเอ็ด น่าจะเป็นบริษัทรับทวงหนี้ก็กินเปอร์เซ็นต์ในการทวงหนี้
อย่างไรก็ตามในส่วนการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งข้อหา 4 ข้อหา ส่วนเรื่องระหว่างลูกหนี้ กับเจ้าหนี้ ก็เป็นอีกเรื่อง