สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - นายกฯ อิ๊งค์ ออกมาชี้แจงยืนยัน ยังไม่ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15 % โดยกระทรวงคลังอยู่ระหว่างศึกษาปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
เรื่องนี้ร้อนจน นายกฯ อิ๊งค์ ออกมาบอกว่าหารือกับรัฐมนตรีคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร ยืนยันยังไม่ปรับ VAT ย้ำรัฐบาลทำงานด้วยความรัดกุม ยึดผลประโยชน์ส่วนรวม ขอให้ประชาชนมั่นใจ พร้อมรับฟังเสียงทุกภาคส่วน
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช สับเละ ขึ้น VAT 15 % ลดเหลื่อมล้ำตรงไหน ทั้งคนจน คนรวย ต้องแบกรับภาษี แถมบอกด้วยว่า เรื่องนี้เป็นแนวคิดของอดีตนายกฯ ทักษิณหรือไม่ เหน็บ นายกฯ อิ๊งค์ ด้วย อย่าตีกรรเชียงเบี่ยงประเด็น
มุมมองเดียวกับนักวิชาการ อย่าง นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยเพื่อการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ แนะรัฐบาลทยอยปรับขึ้น VAT อย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรประกาศล่วงหน้า จะทำให้เกิดภาวะแตกตื่นเงินเฟ้อ สินค้าขยับขึ้นราคา ทยอยปรับเป็น 10 % ภายใน 5 ปีนี้ก่อน
ลองเทียบตัวอย่างให้เห็นภาพว่า ถ้าขยับภาษีจะกระทบราคาสินค้าอย่างไร เช่น ราคาน้ำดื่ม ขนาดขวด 600 มิลลิลิตร ตอนนี้เราซื้อ 10 บาทต่อขวด หากปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จาก 7 % เป็น 10 % เท่ากับว่าราคาจะปรับขึ้นอีกประมาณ 3 % เป็นอาจเพิ่มเป็น 10.3 บาทต่อขวด และหากขึ้นเป็น 15 % ราคาอาจขึ้น 8 % หรือ ปรับเพิ่มเป็น 10.8 บาทต่อขวด
แน่นอนว่า ถ้ารัฐบาลชะลอขึ้น VAT จะกระทบเงินคงคลัง เพราะแต่ละปีรัฐจัดเก็บ VAT 7 % กวาดรายได้เข้าคลังจำนวนมาก โดยช่วงปี 2563-2564 จัดเก็บรายได้กว่า 7 แสนล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 9 แสนล้านบาทในปีงบประมาณ 2567 (1 ต.ค.66 - 30 ก.ย.67) เก็บภาษี VAT ได้สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 947,320 ล้านบาท
ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของหลายคน ซึ่งได้รับเสียงบ่นกลับมาว่า เศรษฐกิจตอนนี้ยังไม่ดี ยังจะมาเก็บภาษีเพิ่มอีก ขณะที่ค่าแรงเท่าเดิม ค่าครองชีพก็สูง หลายคนลำบาก
ขณะที่ชาวเชียงใหม่ ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกับอดีตนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมาบอกว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดรัฐบาลปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และขอคัดค้านอย่างเต็มที่