จับชาวกัมพูชาเปิดแผงขายปลา จ้างคนไทยเป็นเจ้าของ

จับกุมชาวกัมพูชา จ้างคนไทยเป็นนายจ้างเปิดแผงปลาขายตัดราคา คนไทยรับสารภาพได้ค่าตอบแทนวันละ 500 บาท

(12 ธ.ค.67) จากกรณี กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ จ.ปัตตานี ออกมาร้องเรียนว่าถูกกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชา จ้างคนไทยสวมบทนายจ้าง เพื่อให้เปิดแผงขายอาหารทะเลสด โดยกลุ่มแรงงานเหล่านี้ มีการขายตัดราคาคนไทย

ล่าสุดทาง พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้หารือสรุปผลการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรายละเอียดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ได้ทำการสืบสวนจากแหล่งข่าวจนทราบว่า มีแรงงานต่างชาติ มีพฤติกรรมขายอาหารทะเลหน้าร้านตามล็อคภายในสะพานปลา

โดยแรงงานตางชาติจะออกมายืนรับลูกค้าหน้าร้าน คอยบอกราคา หยิบชั่งปลา และรับเงินด้วยตนเอง เข้าลักษณะประกอบธุรกิจต้องห้าม

ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภูธรจังหวัดปัตตานี, กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปัตตานี และสำนักงานจัดหางานจังหวัดปัตตานี รวม 4 ฝ่าย กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 60 นายได้เข้าปฏิบัติต่อเป้าหมาย จำนวน 15 เป้าหมาย

สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 13 คน เป็นคนไทยที่เป็นนายจ้าง 6 คน  ดำเนินคดีในข้อหา รับคนต่างด้าวเข้าทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่ให้ทำได้
แรงงานต่างชาติซึ่งเป็นลูกจ้างแผงขายปลา 7 คน   มีใบอนุญาตทำงาน เป็นกรรมกร แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขายของหน้าร้าน ดำเนินคดีในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ นำส่ง พงส.สภ.เมืองปัตตานีเพื่อดำเดินการตามกฎหมาย

จากการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบว่าห 1 ใน 5 เป้าหมายที่จับกุม คือ นางสุนีย์ เจ้าของแผงขายปลา ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้เช่าแผงจากองค์การสะพานปลาและปล่อยเช่าช่วงต่อให้ นางกุนที และ นายซอวี ชาวกัมพูชา ใน ราคา 5,000 บาทต่อเดือน และ ชาวกัมพูชา ได้จ้างตนเองให้เป็นนายจ้าง โดยรับค่าตอบแทนวันละ 500 บาท

จากการซักถามนายซอวี 1 ในผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่เจ้าของแผงแต่เป็นลูกจ้างซึ่งขัดแย้งกับ พยานหลักฐานรายการแช็ตสนทนาการซื้อขายปลา และสลิปการโอนเงินในโทรศัพท์ ซึ่งเป็นของนายซอวี จึง ได้รวบรวมพยานหลักฐานส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ให้ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นางสุนีย์ ในข้อหา เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือ ร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้าย โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ ประกอบธุรกิจดังกล่าว และดำเนินคดีนางกุนที และนายซอวี ในข้อหา เป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยมิได้รับอนุญาตต่อไป