ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) วางแผนจับกุม แก็งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ตามข่มขู่ ทำร้ายลูกหนี้ ประจานให้อับอาบ สารภาพได้ส่วนแบ่งเป็น %
วันนี้ ( 15 ธ.ค.67) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมชุดจับกุม กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 2 คน คือ นายวีรภัทร อายุ 30 ปี และ นายมีนทฎา อายุ 23 ปี ฐาน ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับในทางการค้าปกติ โดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยถูกจับกุม ได้ด้านหลังอาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจาก มีผู้แจ้งเบาะแสมายัง ตำรวจกองกำกับการ 1 ว่า มักจะมีแก๊งเงินกู้นอกระบบ มาเก็บเงินจากพ่อค้าแม่ค้า ที่เปิดร้านอาหารอยู่ที่บริเวณดังกล่าว หากไม่มีเงินให้ หรือจ่ายช้า ก็จะถูกประจาน ข่มขู่ มีปากเสียงถึงขั้นทำร้ายผู้เสียหาย พร้อมทั้งประกาศว่าตัวเองเป็นเงินกู้โต๊ะใหญ่ ไม่กลัวตำรวจ ทั้งที่บริเวณดังกล่าวอยู่ภายในสถานที่ราชการ ตำรวจจึงทำการสืบสวน พบว่ามีการกระทำความผิดจริง โดยแก๊งเงินกู้มีชื่อว่า “โต๊ะแฟลช & ฟลุ๊ค” และพบลูกหนี้ 3 คน จึงได้รวบรวมข้อมูล วางแผนจับกุม พบว่าแก๊งดังกล่าวมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา และมักจะมาเก็บงวดค่าเงินกู้เป็นประจำทุกวันช่วงเวลาพักกลางวัน โดยขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คน สวมหมวกกันน๊อกเต็มใบ เมื่อเก็บเงินได้แล้วก็จะขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่ออกไป
ตำรวจจึงวางกำลังโดยรอบลานจอดรถภายในกระทรวงวัฒนธรรม กระทั่งพบชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ลักษณะตรงตามข้อมูลที่ได้จากการสืบสวน มาจอดที่บริเวณลานจอดรถ ก่อนจะไปยังศูนย์อาหารชั้นใต้ดินของอาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ เพื่อทำการเก็บเงินกู้ และดอกเบี้ยจากกลุ่มลูกหนี้ หลังจากคนร้ายได้เก็บเงินเสร็จสิ้นตำรวจได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบธนบัตรรัฐบาลไทยที่กระเป๋าของคนร้ายมีหมายเลขตรงกันกับธนบัตรฯที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนการจับกุม ยืนยันว่าคนร้ายทั้ง 2 คน ได้กระทำความผิดจริง ทราบชื่อคนร้ายคือ นายวีรภัทร หรือแฟลช และนายมีนทฎา หรือฟลุ๊ค
สอบสวนทั้ง 2 คน ให้การยอมรับว่า ให้กู้ยืมเงินแก่กลุ่มผู้เสียหาย โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย และเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจริง โดยจะหาลูกค้าที่ต้องการกู้ยืมเงินนอกระบบมาให้กับนายทุนชื่อ แกรม ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เมื่อลูกค้ากู้สำเร็จ ตนจะได้ส่วนแบ่งเป็น % จากนายทุน และมีหน้าที่ในการวิ่งเก็บงวดเงินกู้รายวันส่งนายทุนอีกทอดหนึ่ง โดยในกลุ่มแก๊งจะมีผู้ที่ทำหน้าที่วิ่งเก็บงวดเงินกู้รายวันหลายราย จะมีการแบ่งสายในการวิ่งเก็บเงินกู้ไม่วิ่งทับสายกัน ซึ่งสายของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีชื่อว่า ทรัพย์หลักชัย 5 มีคนชื่อ นายเตย ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการเพิ่มยอดจากลูกค้า และมีคนชื่อ นายตั้ม เป็นที่ปรึกษาคอยดูแลสายทรัพย์หลักชัย 5 ในการวิ่งเก็บงวดเงินกู้อีกที โดยมี นายแกรม เป็นหัวหน้าแก๊งทั้งหมด ตำรวจชุดจับกุมจะได้ทำการรวบรวมข้อมูลขยายผลต่อไป
