เช้านี้ที่หมอชิต - สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เรียกว่ายังมีหลายจังหวัดยังน่าเป็นห่วง อย่างที่จังหวัดชุมพร ชาวบ้านก็ลำบาก สัตว์เลี้ยงก็ลำบาก อย่างเหตุการณ์นี้อาสากู้ภัยต้องนำเรือช่วยเจ้าวัวเคราะห์ร้ายถูกน้ำซัดตกคลองน้ำที่ไหลเชี่ยว
นาทีชีวิต ขณะอาสากู้ภัย พุทธประทีปหลังสวน นำเรือหางยาวออกช่วยเหลือชีวิตวัวเคราะห์ร้ายถูกน้ำป่าซัดไหลมาตามแม่น้ำหลังสวน ตำบลขันเงิน อำเภอหลังสวน ทางอาสากู้ภัยสามารถช่วยเหลือขึ้นฝั่งได้สำเร็จ สอบถามทราบว่าวัวตัวดังกล่าวเป็นของผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ตำบลวังตะกอ โดยวัวของผู้ใหญ่ที่เลี้ยงไว้ในคอกทั้งหมด 26 ตัว ถูกน้ำป่าซัด แต่ช่วยวัวได้ 24 ตัว ตอนนี้สูญหาย 2 ตัว
นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหาย 2 คน จากเหตุเรือไฟเบอร์ ขณะขับอยู่ในคลองนาคราช ถูกกระแสน้ำซัดจนทำให้เรือชนกับตอม่อสะพานข้ามทางรถไฟ ตำบลตากแดด อำเภอเมืองชุมพร ทำให้มีผู้สูญหาย 2 คน ทราบคือ นายชยุต พุ่มไม้ อายุ 30 ปี และเด็กชายอายุ 10 ปี ช่วงเย็นวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ยังไม่พบร่างผู้สูญหาย ซึ่งทางจังหวัดชุมพร ยังได้ดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่องต่อไป
ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 21.00 น. ที่ผ่านมา น้ำป่าจำนวนมหาศาลจากเทือกเขาหลวงหลากลงคองท่าดี ซัดสะพานไม้แขวนข้ามคลองท่าดี บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา หลังในพื้นที่เกิดฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านคีรีวง อาศัยอยู่ริมคลองท่าดี ต่างพากันนำกระสอบทำแนวป้องกันน้ำท่วม แต่สุดท้ายต้านทานความแรงของน้ำไม่อยู่
เมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา รายงานว่าน้ำท่วมสะพานแขวนเรียบร้อยแล้ว และมวลน้ำนี้จะไหลบ่าลงพื้นที่รับน้ำในตำบลท่าดี อำเภอลานสกา ต่อเนื่องถึงเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อาจส่งผลให้น้ำที่ท่วมขังอยู่เพิ่มระดับสูงขึ้น
ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่บ้านดอนหลวง ตำบลท่าอุแท อำเภอกาญจนดิษฐ์ ยังต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้ำสูงกว่า 1 เมตร หลังจากรับมวลน้ำจากพื้นที่เทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช และมวลน้ำฝนที่ตกหนักต่อเนื่องมากว่า 3 วันแล้ว สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก
นายสมรักษ์ ทองคำ ชาวบ้าน เล่าว่า พื้นที่นี้น้ำท่วมนานที่สุดของตำบล เพราะเป็นจุดรับน้ำก่อนลงทะเล น้ำท่วมแบบนี้มา 2 วันแล้ว เป็นกังวลว่าน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะฝนยังตกเป็นระยะ
ด้าน นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ นำเจ้าหน้าที่ ปภ. และฝ่ายปกครอง นำถุงยังชีพมาเยี่ยมชาวบ้านในช่วงกลางคืน ตอนนี้ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 8 อำเภอ ให้เจ้าหน้าที่เร่งออกให้การช่วยเหลือและเยียวยาชาวบ้าน
ส่วนเหตุดินไหลทับแคมป์คนงานก่อสร้างบ้านพักตากอากาศบริเวณเนินเขา ซอยหิมะทอง ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย เจ้าหน้าที่ช่วยกันค้นหาแรงงานชายชาวเมียนมา 2 คน ที่สูญหายไป หลังจากฝนตกหนักและดินจากภูเขาไหลลงมาทับแคมป์คนงานบริเวณไหล่เขา ถึง 2 รอบ โดยใช้วิธีทั้งเดินตรวจสอบใกล้จุดเกิดเหตุ และใช้รถแบ็กโฮขุดดินออกในจุดทีสงสัยว่าดินอาจจะทับร่างผู้สูญหาย แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากยังมีฝนตก ทำให้มีความเสี่ยงที่จะทำให้ดินไหลลงมาอีก
กระทั่งเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบร่างผู้สูญหายทั้ง 2 คนแล้ว อยู่ห่างจากจุดที่ดินไหลลงมาประมาณ 10 เมตร ขณะที่เพื่อนร่วมงานชาวเมียนมา ต่างพากันเสียใจต่อการจากไปของเพื่อนร่วมงานในครั้งนี้ ส่วนการก่อสร้างได้หยุดชั่วคราวเนื่องจากฝนยังตกหนัก และอาจเกิดดินไหลซ้ำ
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
ปัจจุบันยังมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด รวม 27 อำเภอ 137 ตำบล 814 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,595 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 คน ได้แก่
1. ชุมพร น้ำท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปะทิว อำเภอเมืองฯ อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก อำเภอหลังสวน และอำเภอละแม
2. ระนอง น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระบุรี อำเภอละอุ่น และอำเภอเมืองฯ
3. สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าชนะ อำเภอท่าฉาง อำเภอเมืองฯ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก อำเภอเกาะพงัน และอำเภอเกาะสมุย
4. นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองฯ อำเภอปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอพระพรหม อำเภอสิชล อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอขนอม และอำเภอช้างกลาง