เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าของอะพาร์ตเมนต์สุดทน แจ้งจับหนุ่มเสพคลั่งชอบทำร้ายเมีย อ้างว่าภรรยามีชู้
กล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจนจริง ขณะที่ฝั่งสามีอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ยืนทะเลาะกับภรรยา แล้วสามีเดินเข้าไปตบภรรยาอย่างแรงถึง 2 ครั้ง เหตุเกิดหน้าอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยธารเลิศ ชุมชนหนองตุ เทศบาลนครอุดรธานี วันที่ 9 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 15.47 น.
จากนั้นยังมีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายภรรยาหลายครั้ง อย่างวันที่ 11 ธันวาคม 2567 สามีถึงขั้นบีบคอภรรยา ภรรยาต้องวิ่งหนีตาย และใช้กระทะ ป้องกันตัว และล่าสุด คือวันที่ 18 ธันวาคม เวลา 17.24 น. ฝั่งสามีชี้หน้าด่าภรรยา และทำร้ายภรรยาต่อหน้าลูกน้อย นอกจากนี้สามี ถึงขั้นชักปืนยิงข่มขู่ภรรยาอีกด้วย
หลังเกิดเหตุการณ์นี้หลายครั้ง สุดท้ายทางเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ หมดความอดทนเพราะสงสารฝ่ายหญิง โทรแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ให้เข้ามาตรวจสอบเหตุโดยด่วน ที่เกิดเหตุอยู่ชั้น 3 ของอะพาร์ตเมนต์ จากนั้นเวลาประมาณ 19.00 น. (18 ธ.ค.) ทางตำรวจพร้อมอาวุธครบมือเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุทันที ก่อนควบคุมตัวคนก่อเหตุไว้ โดยไม่มีการขัดขืน ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่าย ทราบชื่อคือ นายสมเจตน์ อายุ 31 ปี
จากนั้นตำรวจตรวจค้นในห้องพัก โดยมี นางสาวนิ่ม อายุ 37 ปี ภรรยา นายสมเจตน์ นำตรวจค้น เบื้องต้นพบประทัดลูกบอล 1 ถุง, ขวดพลาสติกดัดแปลงเป็นระเบิด แต่ยังไม่มีการใส่ดินปืน, มีดสั้น 4 เล่ม, แต่ไม่พบอาวุธปืน ที่ นายสมเจตน์ ใช้ยิงข่มขู่ภรรยา
นายสมเจตน์ ให้การว่า มีปากเสียงกับภรรยา เพราะคิดว่าเขามีชู้ แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ก่อนหน้ามีอาชีพขายกับข้าวตามตลาดนัด แต่ขายไม่ดีไปต่อไม่ได้ ตนเลยเครียดจึงใช้ยาเสพติด เข้าใจอยู่ว่ามันสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แต่ถ้าคนอื่นไม่เป็นแบบตนคงไม่เข้าใจ ส่วนของกลางประทัด แค่ซื้อมาจุดเล่น และมีดทั้งหมดตนเอาไว้หั่นกัญชา ส่วนปืนขายคืนเพื่อนในราคา 3,500 บาท
ด้านภรรยา บอกว่า ตนทะเลาะกับสามีบ่อย เรื่องที่สามีระแวงว่าตนจะมีชายอื่น แต่ตนไม่ได้ทำแบบนั้นเลย ก็อยู่ห้องเลี้ยงลูกตามปกติ ที่ผ่านมาเคยถูกสามีตบตีหลายครั้ง เพราะเขาอารมณ์ร้อน แล้วยังเสพยา และกัญชาอีก แต่ถ้ายังอยากอยู่ด้วยกันต่อไป เขาปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นกว่านี้ เลิกพฤติกรรมเดิม ๆ
ตรวจปัสสาวะคนก่อเหตุ พบสารเสพติดในร่างกาย จึงแจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และประพฤติตนวุ่นวาย ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกาย อยู่ที่ตัวภรรยาว่าจะมีการเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมหรือไม่