เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลัง ตรวจสอบรถต้องสงสัยว่า บรรทุกสัตว์ป่าคุ้มครองผิดกฎหมาย พบสัตว์ป่าหลายชนิดเกือบ 200 ตัว ด้ายนคนร้าย ยอมรับ รู้ดีว่าสัตว์ไม่มีใบอนุญาต แต่ได้ค่าจ้างแพง คุ้มที่จะเสี่ยง
วันนี้ (22 ธ.ค. 67) สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส สืบทราบว่า มีขบวนการลักลอบขนสัตว์นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย มาขึ้นที่ท่าเรือ จ.สตูล แล้วลำเลียงขนส่งเข้ามาเพื่อขายให้กับกลุ่มคนที่เลี้ยงสัตว์สวยงาม ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันศุกร์ (20 ธ.ค. 67) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ขบวนการขนสัตว์ใช้รถยนต์ ซูบารุ สีขาว เป็นรถในการขนส่งและได้ขับออกมาผ่าน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา มาตามถนนสายเอเชีย มุ่งหน้า จ.พัทลุง
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ให้ช่วยตรวจสอบรถยนต์เป้าหมาย ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. วันศุกร์ (20 ธ.ค. 67) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ได้พบเห็นรถเป้าหมายขับขี่มาถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร จึงเรียกให้หยุดพร้อมกับตรวจสอบภายในรถ โดยมี นายตั้ม เป็นผู้ขับขี่รถ ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ตนรับจ้างขนสัตว์เพื่อไปส่งที่กรุงเทพฯ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสัตว์ที่บรรทุกมาในตะกร้ารวม 17 ใบ
จากการตรวจสอบสัตว์ที่อยู่ภายในรถมีสัตว์ต่างๆ มากมาย ร่วม 200 ตัว ดังนี้
ชะนีสีเงิน จำนวน 1 ตัว
หมีสุลาเวสี จำนวน 5 ตัว
นกเงือกสุลาเวสี จำนวน 4 ตัว
นากเล็บสั้น จำนวน 3 ตัว
งูชนิดต่าง ๆ ประมาณ 70 ตัว
จิ้งเหลน จำนวน 49 ตัว
กิ้งก่าต่าง ๆ ประมาณ 40 ตัว
และสัตว์อื่น ๆ อีกหลายชนิด
จากการสอบถาม นายตั้ม ยอมรับว่า ตนเป็นผู้รับจ้างขนสัตว์มาจากชายไม่ทราบชื่อซึ่งติดต่อกันผ่านทางไลน์ ตนไปรับสัตว์มาจาก จ.สตูล เพื่อมาส่งที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ตนทราบดีว่าสัตว์ที่รับจ้างขนมานั้นไม่มีใบอนุญาต แต่เห็นว่าได้ค่าจ้างแพง น่าจะคุ้มกับความเสี่ยง จนกระทั่งมาถูกจับกุม
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาให้นายตั้ม ทราบว่า มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 นำส่ง พงส.กก.5 บก.ปทส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป