อดีตพนักงานบริษัทชื่อดังย่านกิ่งแก้วที่ถูกเลิกจ้าง เหมารถบัสเดินทางเข้ากระทรวงแรงงาน เรียกร้องให้บริษัทออกมาจ่ายเงินชดเชยค่าแรง ตามที่ให้สัญญา ขณะที่ พนักงานบางคน ไม่มีเงินเช่าห้อง ต้องหอบหอมนมุ้งนอนริมคลอง
23 ธันวาคม 2567 จากกรณีที่มีกลุ่มอดีตพนักงานของบริษัทชื่อดังย่านกิ่งแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นัดรวมตัวกันประท้วงนายจ้างที่หน้าบริษัท เพื่อเรียกร้องให้ออกมาจ่ายเงินชดเชยค่าแรง ตามที่ให้สัญญาไว้ แต่กลับถูกเบี้ยวจ่าย ทำให้พนักงานหลายร้อยคน ออกมารวมตัวประท้วงที่หน้าบริษัทริมถนนกิ่งแก้ว
ล่าสุด พนักงานจำนวนมากได้เช่าเหมารถบัส จำนวน 5 คัน เพื่อรวมตัวออกเดินทางไปยังกระทรวงแรงงาน เพื่อยื่นหนังสือและขอพบกับรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ให้ออกมาช่วยเหลือในเรื่องนี้ ขณะที่พนักงานบางส่วนพากันใช้รถยนต์ส่วนตัวหลายคัน รวมตัวมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่นายจ้างบริษัทแห่งนี้พัก เพื่อกดดันให้นายจ้างออกมารับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งมีรายงานว่าเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอย เฉลิมพระเกียรติ เขตประเวศ กทม ซึ่งตามรายงานจะมีการปักหลักกดดันประท้วงที่หน้าหมู่บ้านดังกล่าว
ด้าน ผู้กำกับสภ.บางแก้ว เร่งประสานไปยังตำรวจท้องที่ ทั้งที่หน้ากระทรวงแรงงาน และหน้าหมู่บ้านของนายจ้าง เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนที่หน้าบริษัทดังกล่าว ริมถนนกิ่งแก้ว มีการนำเต็นท์มากลางบังแดดให้กับพนักงาน พร้อมทั้งขนเสบียงอาหารและน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้กับพนักงานที่ปักหลักประท้วง โดยมีรายงานจะมีการปักหลักประท้วงอย่างน้อย 3 วัน โดยกินนอนที่ริมถนนกิ่งแก้วที่หน้าบริษัท เพื่อกดดันให้ทางนายจ้างอกมาชดเชยเยียวยาจ่ายเงินดังกล่าว
ด้าน นาย สมนึก วัย 51 ปี หนึ่งในอดีตพนักงานบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นคนชาวจังหวัดนครราชสีมา ท่านนี้ ต้องออกมากางมุ้งนอนที่ริมคลองลาดกระบัง ซึ่งเป็นหน้าร้านค้าของชำที่ชายคนดังกล่าวเคยไปซื้อของเป็นประจำ หลังจากที่เจ้าตัวต้องหอบสิ่งของอกมานอนตรงนี้ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง
นายสมนึก เปิดใจให้สัมภาษณ์ บอกว่า ตนเองเคยเป็นพนักงานบริษัทดังกล่าว สู้และทำงานให้กับบริษัทมากว่า 30 ปี จนอายุใกล้จะเกษียณแล้ว พอถูกประกาศเลิกจ้าง และถูกนายจ้างเบี้ยวเงินไม่จ่ายตามที่ตกลงกันไว้ในหนังสือสัญญา ทำให้ตนเองต้องมาวางแผนที่จะใช้ชีวิตเดินหน้าต่อไป และเตรียมที่จะกลับบ้านเกิดไปลงทุนหาอาชีพทำ ในบั้นปลายของชีวิต แต่พอถูกเบี้ยวค่าแรง ทำให้เดือดร้อนหนัก เงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็ไม่มี ค่าเช่าห้องก็ไม่มี จนต้องคืนห้องเช่า และมาขออาศัยข้างร้านค้านอน ส่วนเรื่องกินเรื่องใช้ ตอนนี้ตนเองต้องแบกหน้าเซ็นร้านค้า เพื่อปะทังชีวิตไปก่อน ตนเองอยากฝากไปยังบริษัท ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะมีโครงการใดให้พนักงานเข้าร่วม แต่ตนเองก็ไม่เข้าเพราะรักบริษัทและอยากจะสู้ไปกับบริษัทจนถึงที่สุด ยอมสู้ทำงานจนถึงนาทีสุดท้าย จนมาถูกประกาศปิดบริษัท ทำให้ตนเองรู้สึกแย่ถึงแม่ว่าจะสู้เพื่อบริษัทแต่กลับถูกมองไม่เห็น