ผู้ใหญ่บ้าน ขับเก๋งพาพ่อไปหาหมอ ถูกญาติรอง ผกก.เมาขับพุ่งชนท้าย หลบหนีไม่ให้การช่วยเหลือ ก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจภายหลัง วัดปริมาณแอลกอฮอล์พุ่ง 257 มิลลิกรัมเปอร์เซน อ้างไม่เจตนาหนีแค่ตกใจ
วันนี้ (24 ธ.ค.67) นางนกเอี้ยง พิมพ์อริยธาดา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านสะเดา ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังจากวันที่ 19 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 19.00 น. ขับรถพานายราย เกิดกระโทก อายุ 81 ปี ไปหาหมอที่ รพ.นางรอง แต่พอขับไปถึงบ้านหนองกก ขาเข้าอำเภอนางรอง ก่อนถึงทางแยกหนองกก ต.สะเดา มีรถกระบะพุ่งชนท้ายจนเสียหลักตกข้างทางรถพังเสียหาย ตนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่พ่อมีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก แต่คนขับรถกระบะที่ชนกลับขับหลบหนีไม่ลงมาดู แต่มีเพียงกันชนหน้าของรถกระบะ พร้อมป้ายทะเบียน บท-2125 บุรีรัมย์ติดอยู่กับกันชน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบหาเจ้าของรถคู่กรณีดังกล่าว
หลังเกิดเหตุในคืนเดียวกัน มีนายบุญเชิด อายุ 60 ปี พานายคณาวุฒิ อายุ 33 ปี มาพบพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ยอมรับว่าเป็นคนขับรถกระบะที่ชนรถเก๋งของผู้ใหญ่บ้าน จึงทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์วัดได้ 257 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย ,ขับรถขณะมึนเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ,เฉี่ยวชนแล้วหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก่อนจะปล่อยตัวไป
ต่อมาทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายกัน โดยนายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรองร่วมรับฟังการไกล่เกลี่ยด้วย ซึ่งคนขับและครอบครัวรับปากจะชดใช้ค่าเสียหาย และค่ารักษาให้กับคู่กรณีอย่างเต็มที่ แต่ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าญาติของคนขับกระบะซึ่งเป็นตำรวจ
ด้านผู้ใหญ่บ้าน เผยว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะญาติของคู่กรณี เป็นตำรวจ แม้จะมีการพูดคุยไกล่เกลี่ย และคู่กรณีรับปากว่าจะรับผิดชอบซ่อมรถและดูแลค่ารักษา แต่ยังไม่มีการเยียวยา อยากให้ตำรวจทำคดีตรงไปตรงมา เพราะหลังเกิดเหตุคู่กรณีไม่แม้แต่จะจอดรถลงมาดูขับหนีไปเลย และผลตรวจยังมีแอลกอฮอล์ในร่างกายด้วย
ขณะที่คนขับรถกระบะคู่กรณี ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุเพิ่งกลับจากทำงานเจาะบ่อบาดาล หลังเสร็จงานได้ดื่มมานิดหน่อย และกำลังขับรถกลับบ้าน พอมาถึงจุดเกิดเหตุค่อนข้างมืด เหมือนชนอะไรสักอย่าง คิดว่าชนรถจักรยานยนต์ ด้วยความตกใจจึงขับกลับไปบอกพ่อที่บ้านว่าชน จยย. หลังจากบอกพ่อก็รีบพาไปพบร้อยเวรฯ ที่โรงพัก และวัดแอลกอฮอล์ตามขั้นตอน ยอมรับว่าดื่มจริงแต่ไม่ได้เมา และไม่เจตนาจะหลบหนีแค่ตกใจจึงกลับไปบอกพ่อที่บ้าน แต่ก็ยินดีจะรับผิดชอบเยียวยาคู่กรณี