สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดตาก เป็นวันที่ 2

View icon 162
วันที่ 24 ธ.ค. 2567 | 20.02 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 08.13 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณปลูกต้นไม้ เหมืองผาแดง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทรงปลูกต้นไม้วงศ์เข็ม อาทิ ต้นมะคังแดง ต้นแข้งกวาง ต้นพุดป่า จากนั้น ทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดตาก หรือ โครงการผาแดง จากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ คณะทำงานประสานงานและดำเนินงานโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ฯ ดำเนินงานตามแผนแม่บทระยะ 5 ปี คือ ปี 2565-2569 อาทิ การจัดสร้างสวนพฤกษศาสตร์ ปัจจุบันอาคารกระจกอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวบรวม ขยายพันธุ์ และอนุรักษ์พันธุกรรมกล้วยไม้ในพื้นที่ฯ โดยฝึกอบรมเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์ ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน 5 หลักสูตร 12 รุ่น 630 คน และปีนี้จะอบรมอีก 4 รุ่น นอกจากนี้ ได้รวบรวมกล้วยไม้ป่า 88 สกุล 375 ชนิด และพืชล้มลุก 38 สกุล 90 ชนิด

กรมชลประทาน มีแผนก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตาวขนาดกลาง เพิ่ม 1 แห่ง ความจุ 7,400,000 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบัน อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2571 ใช้เวลาประมาณ 3 ปี นอกจากจะเกิดประโยชน์ในการอุปโภค-บริโภคแล้ว ยังเป็นแหล่งน้ำสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่โครงการฯ ในระยะต่อไป

กรมพัฒนาที่ดิน ฟื้นฟูดินในพื้นที่ที่เคยเป็นเหมืองแร่สังกะสี ด้วยการปลูกแฝก 1,284,000 กล้า เพื่ออนุรักษ์ดินและน้ำ และจัดทำปุ๋ยหมัก เพื่อปรับปรุงและบำรุงดิน 400 ตัน

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ พบข้อมูลเห็ดราและราแมลง จากพื้นที่เหมืองผาแดงและพื้นที่ใกล้เคียง 130 ตัวอย่าง ในจำนวนนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ของโลกและได้ถูกตีพิมพ์ไปแล้วในวารสารทางวิชาการในระดับนานาชาติ 7 ชนิด และตัวอย่างราแมลงมากกว่า 200 ตัวอย่าง ในจำนวนนี้มีแนวโน้มว่าจะมีรายงานราแมลงชนิดใหม่ของโลกเพิ่มเติมอีก 3 ชนิด จากพื้นที่เหมืองผาแดง

กรมป่าไม้ จัดทำโครงการสร้างป่า สร้างรายได้ ตามพระราชดำริฯ ในพื้นที่จังหวัดตาก เริ่มดำเนินการในปี 2558 จนถึงปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการ 5 อำเภอ 226 หมู่บ้าน สมาชิก 8,753 ครัวเรือน พื้นที่ 37,843 ไร่

ผู้แทนคณะกรรมการโครงการค่ายเยาวชนรักพงษ์ไพรเฉลิมพระเกียรติฯ ได้คัดเลือกนักเรียนที่มีความสนใจศึกษาด้านพฤกษศาสตร์ และมอบทุนการศึกษาในปีการศึกษา 2567 จำนวน 4 ราย เพื่อเป็นกำลังใจในการช่วยกันอนุรักษ์และทำงานด้านเศรษฐศาสตร์ต่อไปในอนาคต

โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสแก่คณะทำงานฯ ที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาท

เวลา 10.59 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนบ้านกล้อทอ อำเภออุ้มผาง ซึ่งเปิดสอนชั้นอนุบาล ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นนักเรียนไป-กลับ และประจำ มีนักเรียน 1,053 คน มีห้องเรียนสาขา 1 แห่ง คือ ห้องเรียนสาขาบ้านทีจอซี

โดยดำเนินกิจกรรมตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และผลักดันให้สถานศึกษาเป็นศูนย์บริการความรู้ สามารถถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการพัฒนาแก่ผู้ปกครองและชุมชน

มีการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาพม่า เพิ่มจากภาษาอังกฤษ เพื่อให้นำไปใช้ติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน เนื่องจากโรงเรียนฯ มีพื้นที่ติดต่อกับเมียนมา, กรมชลประทาน เข้ามาวางแผนเตรียมก่อสร้างฝายพร้อมระบบส่งน้ำ และถังเก็บน้ำ 4 แห่ง ซึ่งจะช่วยให้โรงเรียนฯ และชุมชน มีน้ำอุปโภค-บริโภคเพียงพอ

กิจกรรมห้องสมุด ส่งเสริมให้อ่านหนังสือจากเรื่องที่สนใจและลงบันทึกการอ่าน ช่วยให้รู้จักการวิเคราะห์สามารถสรุปใจความสำคัญ และมีมุมกิจกรรม อาทิ มุมอาเซียน มุมหนังสือพระราชนิพนธ์ และมุม สคส.พระราชทาน

โครงการสวนเกษตรโรงเรียนบ้านกล้อทอ มีการปลูกผัก เลี้ยงไก่ไข่ และปลาดุก เพื่อบริโภค และจำหน่าย ส่งเสริมให้มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพเกษตร, มีทักษะความรู้ด้านอาชีพ และด้านชีวิต สามารถประกอบอาชีพ และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

โรงเรียนยังร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคแม่สอด จัดการศึกษาระบบทวิศึกษา ประเภทวิชาพาณิชยกรรม บริหารธุรกิจ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสและทางเลือกตามความถนัด ปัจจุบันมีนักเรียนที่จบหลักสูตร 112 คน กำลังศึกษาอยู่ 24 คน

นอกจากนี้ มีโครงการผ้าพื้นเมือง "เส้นทางแห่งผ้า วิถีปกาเกอะญอ" เพื่อสร้างพื้นฐานงานอาชีพ สร้างรายได้ระหว่างเรียน และส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยชาวบ้านในชุมชนมาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้การทอผ้า และย้อมสีผ้าจากไม้ธรรมชาติ

จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานผลการเรียน ปัจจุบันมีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ 8 คน สำเร็จการศึกษาแล้ว 9 คน กลับมาเป็นครูที่โรงเรียนบ้านกล้อทอ 4 คน

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดงดนตรี บทเพลงพระราชนิพนธ์ "ใกล้รุ่ง" โดยวงโยธวาทิต ชุมนุมดนตรี โรงเรียนบ้านกล้อทอ

สหกรณ์นักเรียน จัดกิจกรรมออมรัพย์, กิจกรรมร้านค้า และพานักเรียนไปทัศนศึกษาตามแหล่งเรียนรู้ อาทิ สหกรณ์นิคมแม่สอด เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับระบบสหกรณ์ของโรงเรียน สินค้าที่วางขายเป็นผลผลิตที่นักเรียนปลูก และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากชุมชน อาทิ มะนาว พริก กล้วยฉาบ

โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมการดำเนินงานของหน่วยแพทย์พระราชทาน (คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล) ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้มาตรวจรักษา มีผู้มารับบริการตรวจโรค 190 คน และทันตกรรม 130 คน ส่วนใหญ่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ

เวลา 14.15 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนท่านผู้หญิงวิไล อมาตยกุล บ้านเปิงเคลิ่ง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เปิดสอนชั้นอนุบาล ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 1,300 คน เป็นชาวปะกาเกอะญอ ลาว เมียนมา และไทย มีนักเรียนบ้านไกลจากบ้านเลตองคุ บ้านหม่องกั๊วะ บ้านกุยเลตอ พักที่โรงเรียน 93 คน มีห้องเรียนสาขาบ้านกุยเลอตอ 1 แห่ง มีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี 2 คน รับราชการเป็นครูที่โรงเรียน 1 คน และกำลังศึกษาอยู่ 13 คน

โรงเรียนได้จัดกิจกรรมฝึกวิชาชีพ อาทิ ทำภาชนะจากกาบหมาก เนื่องจากมีต้นหมากจำนวนมาก ซึ่งนำมาทำเป็นภาชนะได้ดี สะอาด ลดการใช้โฟม ลดโลกร้อน โดยจัดตั้งเป็นชุมนุมกาบหมากกู้โลก ซึ่งก่อนการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เคยขายได้เป็นจำนวนมาก และได้หยุดทำไป โดยกลับมาเริ่มทำใหม่ในปีนี้

กิจกรรมบาริสต้าน้อย นำเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่ปลูกโดยคนรุ่นใหม่ในหมู่บ้าน มาเปิดร้านกาแฟในโรงเรียน ให้นักเรียนดำเนินการเองทุกอย่าง เช่น การบริหารจัดการร้าน เรียนรู้การชงกาแฟ การทำบัญชี มีครูให้คำแนะนำ ซึ่งช่วยให้มีรายได้ระหว่างเรียน

ชุมนุมเม็ดทรายสร้างอาชีพ ได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิอมาตยกุล ถ่ายทอดความรู้ทักษะงานช่างคอนกรีต เช่น การทำแผ่นพิมพ์ลายคอนกรีต แผ่นพื้นทางเท้า ตอไม้ประดิษฐ์ ซึ่งเป็นงานที่ขาดแคลนแรงงาน สามารถนำไปต่อยอดหารายได้ระหว่างเรียน หรือทำเป็นอาชีพได้

โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เนื่องจากมีพื้นที่ทำการเกษตรน้อย จึงจัดทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่ เช่น ปลูกผักบนแคร่ ปลูกผักในตะกร้า ผักไฮโดรโปนิกส์ เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ซึ่งสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ นอกจากนี้ ยังเปิดสอนในแผนกศิลป์ภาษา และทวิศึกษา สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ แต่ยังไม่มีแผนกวิทย์-คณิต เนื่องจากขาดแคลนครูผู้สอน

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนักเรียนอนุบาล เล่านิทานประกอบการแสดง เรื่อง "ช้างน้อยไม่อยากเป็นช้าง" การท่องอาขยานจากบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่อง "บิดา" ของนักเรียนห้อง ป.ไก่ ซึ่งตั้งขึ้นสำหรับนักเรียนที่อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ มีครูพิเศษจัดกิจกรรมฝึกอ่านเขียนเพิ่มเติม เพื่อให้อ่านเขียนได้ และการแสดงดนตรีสากล เพลงต้นไม้ของพ่อ

จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน จากศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีผู้มารับการตรวจ 273 คน ตรวจรักษาฟัน 48 คน โรคที่พบมาก คือ กล้ามเนื้อและกระดูก และโรคเหงือกและฟัน โดยได้พระราชทานค่าเดินทางไปพบแพทย์

และทรงเยี่ยมราษฎร ที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ บ้านเปิงเคลิ่ง มีประชากร 980 ครัวเรือน 4,314 คน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ค้าขาย รับจ้าง รายได้เฉลี่ยครัวเรือนละ 20,000-50,000 บาทต่อปี

ข่าวอื่นในหมวด