ปะทะเดือด ! กู้ภัย 2 หน่วยงาน ยกพวกปิดล้อมในโรงพยาบาลดังกลางเมืองเชียงใหม่ เปิดศึกแย่งศพ ล่าสุดมูลนิธิเพชรเกษมสาขาเชียงใหม่ เข้าแจ้งความกับกู้ภัยเชียงใหม่ ข้อหาบุกรุกเคหะสถาน และกักขังหน่วงเหนี่ยว
กรณีกู้ภัย 2 มูลนิธิยกพวกปิดล้อมรถตู้กู้ภัย จนเกิดการโต้เถียงกัน ภายในโรงพยาบาลชื่อดังกลางเมืองเชียงใหม่ จนกระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งกัน ตะโกนด่าทอท้าท้ายกัน ลากเหล็กยาวประมาณ 60 เซนติเมตรเข้ามาก่อเหตุข่มขู่พร้อมทั้งท้ายให้อีกฝ่ายลงมาจากรถ เหตุเกิดหน้าห้องเก็บศพ ช่วงเวลา 21.00 น. วันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก่อนแยกย้ายกันกลับเนื่องจากทาง รปภ. ของโรงพยาบาลเข้าพูดคุยขอให้ยุติธรรม
ล่าสุด วันที่ 27 ธ.ค. 67 นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี ประธานมูลนิธิเพชรเกษม พร้อมกู้ภัยเพชรเกษมสาขาเชียงใหม่ ที่ปรากฏในคลิปที่เกิดเหตุ ได้หอบหลักฐาน ออกมาให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุถูกปิดล้อม และบุกรุกเข้ามาในเคหะสถานยามวิกาลโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากที่มูลนิธิไปรับผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ที่อำเภอสารภี นำศพส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยตำรวจได้ออกหนังสือส่งศพให้เรียบร้อย ซึ่งทางมูลนิธิทำตามหน้าที่ หลังจากนำศพมาส่งและกำลังกลับมูลนิธิ ได้ถูกกลุ่มกู้ภัยอีกหลายองค์กรมาปิดล้อม โดยนำรถมาปิดล้อมทางออกโรงพยาบาล ประมาณ 20 คัน กว่า 30-40 คน จากนั้นเมื่อกลับมูลนิธิได้แล้ว ประมาณเที่ยงคืนได้มีกู้ภัยอีกหลายกลุ่ม มาปิดล้อมที่ทำการมูลนิธิ ที่ถนนช้างคลาน อำเภอเมือง บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายถึงในพื้นที่ และบุกรุกเข้ามาภายในสำนักงานประมาณ 20 คน ทางมูลนิธิจึงต้องปกป้องสิทธิ์ ในการแจ้งความร้องทุกข์ ที่สภ. ภูพิงค์ ฐานบุกรุก และกักขังหน่วงเหนี่ยว
ด้านนายไพโรจน์ พรมธารา รักษาการนายกสมาคมกู้ภัยร่วมล้านนาเชียงใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ขับรถปรากฏในคลิป ชี้แจงว่า ได้รับการร้องขอจากมูลนิธิรวมใจ ให้ไปช่วยดูว่ารถมูลนิธิเพชรเกษมได้นำศพ ไปส่งที่ไหน จึงได้ขับรถมาดูที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ แต่ไม่ทันคุยทางมูลนิธิเพชรเกษมก็ขึ้นรถ จนประจันหน้ากันที่หน้าวัดปันเสา ตนยืนยันไม่ได้มีการปิดแต่อย่างใด รถตนเองไปคันเดียว ขับไปพร้อมกับทีมงานผู้หญิง 1 คนเท่านั้น ซึ่งมีคลิปกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ว่า รถมูลนิธิเพชรเกษม มี 4 คัน และตนบอกให้ไปคุยกับมูลนิธิรวมใจเอง ส่วนที่ไปสำนักงานนั้น ไม่ได้ปิดล้อม แค่ต้องการไปเจรจาว่า ในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เพราะเกิดการกระทบกระทั่งกันหลายครั้งแล้ว อย่างไรก็ตามทางรักษานายกสมาคมกู้ภัยร่วมล้านนาเชียงใหม่ ยังบอกอีกว่า หนังสือเอ็มโอยู การส่งมอบพื้นที่บริหารการแพทย์ฉุกเฉินระหว่างสมาคมกู้ภัยร่วมล้านนา กับมูลนิธิเพชรเกษมเชียงใหม่ นั้นทางสมาคมไม่ได้เป็นผู้เซ็นและมีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใดหนังสือฉบับดังกล่าวนั้นมีลายเซ็นของนายกสมาคมกู้ภัยร่วมล้านนาเชียงใหม่คนเก่า ซึ่งหมดวาระไปตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 แต่หนังสือเซ็นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 และไม่มีตราประทับของทางสมาคมด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เผยว่า ตำรวจจะเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาทำการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง ซึ่งวันนี้มูลนิธิเพชรเกษมได้เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ จึงจะเรียกฝ่ายคู่กรณีมาสอบสวนอีกครั้งเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
ขณะที่นางสุมาลี เงินถา ผู้จัดการศูนย์มูลนิธิรวมใจ ให้ข้อมูลว่า มูลนิธิรวมใจที่ทำมากว่า 34 ปี ทำตามกฎระเบียบ ทั้งการรับผู้ป่วย บาดเจ็บ รับศพ จะต้องมีการร้องขอจากพนักงานสอบสวน จึงจะไปทำหน้าที่ ส่วนเรื่องพื้นที่ ตั้งแต่ทำงานมา ในเขตของจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีพื้นที่แบ่งกันในการช่วยเหลือไม่ผูกมัด ในหลักการที่ปฏิบัตินั้นกู้ภัยในเชียงใหม่ จะรู้ขอบเขตของตัวเองทำหน้าที่พื้นที่ใครพื้นที่มันไม่ก้าวก่ายนอกจากมีการร้องขอและช่วยเหลือกันถ้าบางกู้ภัยมาช้า เพื่อเป็นการลดปัญหาทะเลาะวิวท