เมื่อลาดกระบังอากาศแย่กว่า ปักกิ่ง 10 เท่า ดร.เอ้แนะ 4 วิธีแก้

เมื่อลาดกระบังอากาศแย่กว่า ปักกิ่ง 10 เท่า ดร.เอ้แนะ 4 วิธีแก้

View icon 233
วันที่ 14 ม.ค. 2568 | 20.15 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เมื่อลาดกระบัง อากาศแย่กว่า "ปักกิ่ง" 10 เท่า ดร.เอ้แนะ 4 วิธี แก้ฝุ่นพิษ PM2.5 เทคโนโลยีมีแล้วต้องใช้ อย่าปล่อยให้ต้องตายผ่อนส่ง

ฝุ่น PM5.2 วันนี้ (14 ม.ค.68) ศ.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถานการณ์ฝุ่นในกรุงเทพฯ โดยระบุว่า ไม่น่าเชื่อ "ปักกิ่ง" จากเมืองมลพิษในอดีต วันนี้กลายเป็น "เมืองอากาศสะอาด" ขณะที่ "กรุงเทพ" กลับกลายเป็นเมืองมลพิษ ติดอันดับโลก เมื่อเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้ ตนและครอบครัวย้ายบ้านจากใจกลาง กทม. ออกมาอยู่เขตรอบนอก เพื่อหนีมลพิษ แต่กลับยังเผชิญกับ "อากาศพิษ" จากรถบรรทุกควันดำ ที่วิ่งเกลื่อนมอเตอร์เวย์เข้ากรุงเทพ นับหมื่นนับแสนเที่ยว ทุกวัน

“เมื่อเช้า เห็นอากาศขุ่น ๆ ตรวจคุณภาพอากาศ ถึงกับตกใจ ลาดกระบัง แย่กว่าปักกิ่งหลายเท่า ปริมาณ PM2.5 แย่กว่าถึง 10 เท่า ตกใจมาก คงถึงเวลาจริงจัง แก้ปัญหาฝุ่นพิษ เพราะยิ่งปล่อยผ่าน พ่อแม่ลูกเราตายผ่อนส่ง เรื่องจริงใกล้ตัว เมื่อ "คุณพ่อ" ต้องป่วยเข้า ICU เพราะ PM2.5 ใครไม่เจอด้วยตนเองอาจไม่เข้าใจ”

ดร. เอ้ ระบุด้วยว่า ตนเคยเสนอครั้งแล้วครั้งเล่า และขอเสนออีกครั้ง เรื่องการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ 4 ข้อ ให้มลพิษ PM2.5 ลดลง คือ
1. แสดงผลให้ชัด เพื่อคนป้องกันตนเองก่อน เพราะไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา คนกรุงเทพฯ ยังไม่กลัว PM2.5 ทั้งที่อันตราย ตายผ่อนส่งจริง  จึงต้องติดตั้งเครื่องตรวจวัด" ทั่วกรุงเทพ และปริมณฑล 2,000 จุด เพราะพื้นที่ใหญ่มาก เครื่องนี้ คนไทยทำได้เอง ราคาไม่แพง เช่น จุฬาฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาสงขลานครินทร์ ทำเครื่องได้มานานแล้ว แสดงค่าบนจอโฆษณา ที่ติดอยู่เต็มเมือง ขอชั่วโมงละนาที ใครเห็นค่าตัวแดงแป๊ดแบบนี้ รู้ตัวทันที เต้องรีบใส่หน้ากาก เพื่อดูแลตนเองทันที ช่วยบรรเทา ป้องกันตนได้ก่อน

2. "เร่งจัดการกับรถควันดำ"  PM2.5 มาจากรถบรรทุกควันดำเป็นส่วนใหญ่ ที่วิ่งเข้าออก ไซต์งานก่อสร้างทุกวัน วันละไม่รู้กี่พันกี่หมื่นเที่ยว และเครื่องจักรกลก่อสร้างเก่าพ่นควันพิษ กทม.มีข้อบัญญัติความปลอดภัย ความสะอาด และป้องกันสิ่งแวดล้อมในมือ จัดการได้ทันที ถึงระงับใบอนุญาตก่อสร้างได้ เป็นการแก้ปัญหาถึง "ต้นตอ" เช่นเดียวกับรถเมล์ ปล่อยควันดำฆ่าลูกหลาน จะให้อ้างบริการประชาชน คงไม่ถูกต้อง กทม.แค่ใช้กฎหมายเข้มข้น เท่าเทียม เท่านั้นเอง
.
3. "ใช้มาตราการภาษีฝุ่น" ก่อสร้างอาคารทั่วเมือง บางตึกก็รับผิดชอบ มีผ้าพลาสติกหุ้มมิดชิดขณะก่อสร้าง แต่หลายตึก ใช้ ตาข่ายเก่า ๆ รั่ว ๆ ทำแบบขอไปที ปล่อยฝุ่น ปล่อยของตกลงบ้านเพื่อน ไร้ความรับผิดชอบ หากทำดีรับผิดชอบ กทม.ให้นำค่าใช้จ่ายในการป้องกันฝุ่น มาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ เขาก็อยากทำดี ได้ลดภาษี แต่หากทำไม่ดี ก็เจอกฎหมายเข้มข้น ถูกปรับ หรือถูกระงับการก่อสร้าง

4. "มีดาวเทียม รู้ทันที ใครเผา" เมื่อปีก่อน ไทยส่งดาวเทียมธีออส 2 ซึ่งเป็นดาวเทียมวงโคจรต่ำ เวียนมาสอดส่องดูพื้นที่ประเทศไทย ใครเผาป่า เผ่าไร่ ตรงจุดไหน ที่แปลงใด รู้ทันทีใครต้องรับผิดชอบ GISTDA หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ผู้ดูแลดาวเทียม ระบุว่าข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมธีออส 2 มีรายละเอียดภาพหรือขนาดพิกเซล 50 เซนติเมตร ถือว่าความละเอียดสูงมาก ไม่มีอะไรรอดพ้นสายตา จะใช้หรือไม่ ก็เท่านั้นเอง

ดร.เอ้ ระบุทิ้งท้ายว่า ตนพยายามผลักดันการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ มานาน และเป็นผู้ประสบภัย เหมือนกับคน กทม. ทุกคน ไม่อยากเห็นใครต้องมาเจ็บป่วยจากภัยร้าย PM2.5 อีกเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง