เช้านี้ที่หมอชิต - ทหารเรือนำเรือค้นหาร่างนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ สูญหายจากเหตุเรือล่มที่เกาะพะงัน แต่ยังไร้วี่แวว เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะที่หลายพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช มีน้ำป่าไหลหลากรอบสองในเดือนนี้
ยังไร้วี่แววร่างนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ เรือล่มอ่าวบางริ้น
เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ภาค 2 และทหารเรือ สถานีเรือสมุย นำ เรือ ต.266 ออกค้นหา นักท่องเที่ยวชาย ชาวเกาหลีใต้ อายุ 30 ปี หลังสูญหายจากเหตุเรือล่ม ช่วง 03.00 น. เมื่อวานนี้ บริเวณอ่าวหาดริ้น เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยการค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากคลื่นลมแรง 1-2 เมตร แต่ก็ยังไม่พบร่างนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงัน พร้อมตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะพะงัน กระจายกันออกเดินตามแนวชายหาด หาผู้สูญหายตลอดทั้งวัน แต่ก็ยังไม่พบร่าง ก่อนยุติค้นหาช่วงเย็น และจะค้นหาอีกครั้งในเช้าวันนี้
หนุ่ม-สาว ขับรถ จยย.ตาม GPS ถูกน้ำป่าซัดตกคลอง
ขณะที่ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ พื้นที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีน้ำป่าไหลหลากหลายจุด โดยเฉพาะที่ตำบลเวียง ทำให้เกิดเหตุ น้ำป่าพัดรถจักรยานยนต์ คันหนึ่งตกลงคลองชลประทาน ซึ่งหญิงคนหนึ่งยืนอยู่ มีอาการตกใจ ร้องไห้ เนื้อตัวเปียกโชก หนาวสั่น รอความช่วยเหลือจากกู้ภัย เล่าว่า ตนกับแฟนหนุ่ม ขี่รถจักรยานยนต์จากกรุงเทพมหานคร ไปจังหวัดภูเก็ต แต่ GPS นำทางมาตามเส้นทางนี้
กระทั่งถึงที่เกิดเหตุ ประมาณ 05.00 น. น้ำป่าไหลหลากท่วมถนน กระแสน้ำไหลเชี่ยวพัดรถตกลงไปในคลองชลประทาน โดยแฟนหนุ่มจมลงไปในคลองชลประทานพร้อมรถจักรยานยนต์ ส่วนตัวเองก็ตะเกียกตะกายมาบนถนน โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ
เมืองคอนลุ้นรอบ 2 น้ำป่าหลากก่อนปีใหม่
เช่นเดียวกับจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวานนี้ น้ำป่าจากเทือกเขาหลวง ไหลหลากลงน้ำตกหลายแห่ง ก่อนหลากลงสู่พื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งปริมาณน้ำยังไม่มากเท่ากับช่วงวันที่ 15 ธันวาคม แต่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ก็ยกธงเหลือง แจ้งเตือนประชาชน เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูงขึ้น ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม ที่ชาวบ้านต้องเผชิญน้ำป่า
ชาวบ้าน 60 ครัวเรือน ถูกตัดขาด น้ำป่าซัดสะพานขาด
แต่สะพานไม้ชั่วคราว ที่ชาวบ้าน หมู่ที่ 8 และหมู่ 2 ตำบลนบพิตำ อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างเสร็จได้ 6 วัน เพื่อใช้เดินทาง หลังจากสะพานเดิมถูกน้ำป่าพัดจนขาด ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ สะพานดังกล่าวก็ขาดอีกครั้ง หลังน้ำป่าไหลหลากครั้งที่ 2 ทำให้ชาวบ้าน 60 ครัวเรือน ถูกตัดขาดอีกครั้งในรอบไม่ถึง 15 วัน
โวยเรียกร้อง 13 ปี ไร้หน่วยงานแก้ปัญหาน้ำกัดเซาะ
อีกจุดที่บ้านน้ำร้อน หมู่ที่ 1 ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ชาวบ้านนำทีมข่าว 7HD ไปตรวจสอบความเสียหายของสะพานที่ชาวบ้านใช้สัญจรเข้า-ออก หมู่บ้าน เพียงเส้นทางเดียว และกำลังมีการซ่อมแซมให้ใช้ได้ชั่วคราว หลังถูกน้ำป่าไหลหลากพัดคอสะพานจนขาดทั้ง 2 ฝั่ง
ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำแนวป้องกันน้ำป่าไหลหลากและกัดเซาะ ตั้งแต่ปี 2554 แต่ก็ยังไร้วี่แวว ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนทุกครั้ง ที่น้ำป่าไหลหลาก และเมื่อ อบต.สี่ขีดจะทำพนังกั้นน้ำ งบประมาณ 3 ล้านบาท กรมชลประทานก็คัดค้าน และจะทำโครงการวางแนวหินแกรเบียน ใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาทแทน
ทั้งนี้ภาพมุมสูง น้ำป่ายังกัดเซาะตลิ่ง จนถึงหลังบ้านชาวบ้าน จนตลิ่งมีสภาพชัน เสี่ยงเกิดอันตราย บางจุดน้ำกัดเซาะกว้างราว 20 เมตร จนถึงถนน ซึ่งล่าสุดกรมชลประทาน บรรจุโครงการแก้ไขความเดือดร้อนให้ชาวบ้านลงในแผนงานแล้ว
ทางปภ.ส่ง SMS แจ้งเตือนน้ำล้นตลิ่งคลองทุ่งปรัง ในพื้นที่ 4 ชุมชน และเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ขนย้ายสิ่งของ และอพยพกลุ่มเปราะบางไปที่ปลอดภัย
นอกจากจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ทาง ปภ.ส่ง SMS แจ้งเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ตำบลเอราวัน ตำบลกายูคละ ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ให้ขนย้ายสิ่งของ และอพยพกลุ่มเปราะบางไปที่ปลอดภัย