กรมอุทยานฯ ร่อนแถลงการณ์ชี้แจงวัคซีนคุมกำเนิดช้าง

กรมอุทยานฯ ร่อนแถลงการณ์ชี้แจงวัคซีนคุมกำเนิดช้าง

View icon 157
วันที่ 30 ธ.ค. 2567 | 09.20 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หวั่นเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรมอุทยานฯ ร่อนแถลงการณ์ชี้แจงวัคซีนคุมกำเนิดช้าง เพื่อแก้ปัญหาขัดแย้งคนกับช้างป่า 1 เข็ม ควบคุมได้ 7 ปี ไม่มีผลข้างเคียงกับช้าง

วัคซีนคุมกำเนิดช้าง วันนี้ (30 ธ.ค.67) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีการควบคุมประชากรช้างป่าโดยการใช้วัคซีนคุมกำเนิด โดยระบุว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลกรณีการดำเนินโครงการควบคุมประชากรช้างป่าโดยการใช้วัคซีนคุมกำเนิด อันเป็นเหตุให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างต่อการดำเนินโครงการดังกล่าว และอาจเป็นสาเหตุทำให้ประชาชนเกิดความสับสน มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และทำให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคมได้       

กรมอุทยานแห่งชาติ ชี้แจงว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานไม่ต่ำกว่า 3 ทศวรรษ ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบันและมีแนวโน้มสูงขึ้น ปัญหาคนกับช้างป่าเกิดขึ้นครอบคลุมพื้นที่กว่า 42 จังหวัดทั่วประเทศ ก่อให้เกิดความสูญเสียกระทั่งบาดเจ็บ เสียชีวิตทั้งคนและช้างป่าเป็นจำนวนมาก โดยนับตั้งแต่ปี 2555 - ปัจจุบัน มีรายงานประชาชนเสียชีวิตจากช้างป่า 240 คน ได้รับบาดเจ็บ 208 คน และยังมีความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินและพืชผลของประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก

เหตุการณ์ดังกล่าว หน่วยงานภาครัฐไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาและได้จัดตั้ง “คณะกรรมการอนุรักษ์และจัดการช้างป่า” นับตั้งแต่ปี 2565 ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี เพื่อบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนและดำเนินการงานด้านการอนุรักษ์ จัดการ และแก้ไขปัญหาช้างป่าให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว 

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบให้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ดำเนินการตามกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาช้างป่า 6 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานอนุรักษ์และจัดการช้างในภาพรวมให้เป็นไปอย่างมีระบบ เหมาะสม และยั่งยืน ประกอบด้วย
1) การจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อเป็นแหล่งอาศัยของช้างป่า
2) แนวป้องกันช้างป่า
3) ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า และเครือข่ายชุมชน
4) การช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า
5) การจัดการพื้นที่รองรับช้างป่าอย่างยั่งยืน
6) การควบคุมประชากรช้างป่าด้วยวัคซีนคุมกำเนิด

คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานและศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน สภาผู้แทนราษฎร ยังได้เสนอให้ใช้วัคซีนในการคุมกำเนิดช้างป่า เพื่อเป็นทางเลือกในการควบคุมจำนวนประชากรช้างป่า และลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับช้างป่า การควบคุมประชากรช้างป่าด้วยวัคซีนคุมกำเนิด เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนและข้อสั่งการของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้มอบหมายและสั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ดำเนินการโดยเร่งด่วน เป็นความพยายามและมุ่งมั่นต่อสังคมในการแก้ไขปัญหาช้างป่าที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

การดำเนินโครงการดังกล่าวนี้ เป็นการเตรียมการรองรับสถานการณ์ประชากรช้างป่าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในบางพื้นที่ที่ถิ่นอาศัยไม่สามารถรองรับประชากรดังกล่าวได้แล้ว โดยปัจจุบันพบว่ามีช้างป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติราว 4,013 - 4,422 ตัว ใน 16 กลุ่มป่า 94 พื้นที่อนุรักษ์ มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ประสบปัญหาและได้รับผลกระทบจากช้างป่าทั้งสิ้น 71 แห่ง การจัดการประชากรโดยการควบคุมประชากรช้างจึงเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่มีความจำเป็น เพื่อเป็นการวางแผนรองรับการจัดการประชากรช้างป่าในอนาคต

กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกับศูนย์สุขภาพช้างและสัตว์ป่า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาโครงการศึกษาวิจัยการใช้วัคซีนคุมกำเนิดแก่ช้างป่า โดยใช้วัคซีนคุมกำเนิด SpayVac®  ซึ่งมีการใช้งานจริงในช้างแอฟริกามาแล้ว ได้เริ่มดำเนินโครงการทดลองฉีดวัคซีนคุมกำเนิดในช้างเพศเมียเต็มวัย จำนวน 7 เชือก ตั้งแต่เดือน เม.ย. 67 มีการเก็บตัวอย่างเลือด ตรวจสุขภาพ และติดตามผลหลังการฉีดวัคซีน โดยวัคซีน 1 เข็ม จะควบคุมได้ระยะยาว 7 ปี

“วัคซีนไม่มีผลต่อพฤติกรรมและสรีระของช้าง เป็นเพียงควบคุมมฮอร์โมนช้างเพศเมียไม่ให้มีลูก ผลการทดลองหลังการฉีดวัคซีนพบว่าวัคซีนมีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ช้างไม่มีอาการอักเสบ วัคซีนจะไม่ส่งผลกระทบต่อช้างที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ส่งผลเสียต่อพฤติกรรมของตัวช้าง และพฤติกรรมทางสังคมของช้างป่า จึงได้มีโครงการนำร่องเพื่อขยายผลการใช้วัคซีนคุมกำเนิดระยะยาวในช้างป่า”

การดำเนินการควบคุมประชากรช้างป่าโดยการใช้วัคซีนคุมกำเนิด มีเป้าหมายดำเนินงานเฉพาะพื้นที่ที่มีประชากรช้างป่ามากจนเกินศักยภาพของพื้นที่อนุรักษ์และขนาดของพื้นที่ป่าจะรองรับได้ เช่น ในพื้นที่กลุ่มป่าตะวันออก (ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด) ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรช้างป่าที่มีอัตราการเพิ่มสูงที่สุดและกำลังเผชิญปัญหาที่รุนแรงมากจากการที่ช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ ทั้งนี้ การควบคุมประชากรช้างป่าโดยใช้วัคซีนคุมกำเนิด มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อแก้ปัญหาช้างป่าอย่างเป็นรูปธรรม มีแผนดำเนินงานที่รัดกุมผ่านการศึกษาวิจัยที่มีการทดสอบ ติดตาม และประเมินผลสัมฤทธิ์ตามหลักทางวิชาการและเทคนิคการสัตวแพทย์ มีการเตรียมความพร้อมทั้งบุคลากร อุปกรณ์เครื่องมือ เวชภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงกำหนดแนวทางการดำเนินงานในทุกมิติ ทั้งการศึกษาจำนวน โครงสร้างชั้นอายุ สัดส่วนเพศของประชากรช้างป่าในพื้นที่อย่างชัดเจนก่อนดำเนินการ

การจำแนกตัวและทำอัตลักษณ์ช้างป่าแต่ละตัวในแต่ละฝูง แนวทางการติดตามช้างป่าโดยการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ติดตามตัว การติดตามตรวจสอบและประเมินผลการดำเนินงาน การดำเนินโครงการดังกล่าวนี้จะเป็นแนวทางในการจัดการและแก้ไขปัญหาช้างป่า และการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อนำไปสู่การอนุรักษ์และการจัดการประชากรช้างป่าให้มีปริมาณที่สมดุล ลดปัญหาระหว่างคนกับช้างป่า และให้ทุกภาคส่วนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในดูแล เกิดการอนุรักษ์และจัดการช้างป่าอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง