โรคภูมิต้านตนเอง พบน้อยมาก คาดป่วยคนแรกในไทย รักษากว่า 2 ปี หมอมนูญเตือนใครเกิดโรคนี้ห้ามฉีด mRNA เข็มต่อไป เพราะจะทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงและรวดเร็ว ป่วยหนักได้
วันนี้ (30 ธ.ค.67) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญด้านระบบการหายใจและผู้ป่วยหนัก เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยยกเคสผู้ป่วยหญิง อายุ 32 ปี ปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มียาประจำ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด แอสตราเซนเนกา 2 เข็ม ในเดือน มิ.ย.และ ก.ย. 2564 ตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ในเดือน ก.พ.และ ก.ค. 2565 หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มสอง ประมาณ 3 เดือน หรือในเดือน ต.ค. 2565 เริ่มมีไข้ ไอ ไม่เหนื่อย ผิวหนังบริเวณข้อของนิ้วมือพบตุ่มนูนแดง (Gottron’s papules) ผิวหนังที่โคนเล็บเห็นจุดแดงของเส้นเลือดฝอยที่ขยายตัว (periungual telangiectasia) ผิวหนังที่ฝ่ามือหนาตัวขึ้น หยาบกร้านและแห้งแตกเป็นร่องคล้ายมือของช่างเครื่อง มีผื่นแดงรูปตัว V ที่คอและหน้าอก (V-neck sign) บริเวณบ่าไหล่ 2 ข้างและหลังตอนบน (shawl sign) (เหมือนในรูปของผู้ป่วยรายอื่น) ไม่มีอาการทางกล้ามเนื้อ ฟังปอดผิดปกติที่ปอดด้านซ้ายล่าง
ผลเอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวที่ปอดซ้ายด้านล่าง เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอดเห็นฝ้าขาวที่ปอดซ้ายด้านล่าง ทำสมรรถภาพปอดพบความจุของปอดลดลง เจาะเลือดค่าอักเสบของเลือดสูงเล็กน้อย ค่าอักเสบของกล้ามเนื้อ CPK ปกติ วินิจฉัยว่า ความผิดปกติทางผิวหนังทั้งหมดร่วมกับปอดอักเสบ และผลเลือด Anti-MDA5 บวก ไม่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง เข้ากับได้กับโรคภูมิต้านตนเอง ผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบชนิดไม่มีอาการทางกล้ามเนื้อ ให้ยาสเตียรอยด์ และยากดภูมิคุ้มกันไมโคฟีโนเลต ผื่นลดลง อาการทางปอดดีขึ้น
หมอมนูญ ระบุว่า ผู้ป่วยได้วัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 ในเดือน ม.ค. 2566 เพราะกลัวว่าหากติดไวรัสโควิด-19 อาจป่วยรุนแรงเนื่องจากกำลังกินยากดภูมิคุ้มกัน ปรากฏว่า 5 วัน หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ มีผื่นที่หน้า ข้อมือ ข้อศอก คอ หลังส่วนบน กลับมาเป็นมากขึ้น ไอ และเหนื่อยเวลาออกกำลังกาย เอกซเรย์ปอดและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอด เห็นฝ้าขาวเพิ่มขึ้นที่ปอดด้านล่างทั้ง 2 ข้าง วินิจฉัยว่า โรคภูมิต้านตนเองผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบกำเริบหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 3 ต้องปรับเพิ่มขนาดยาสเตียรอยด์ และไมโคฟีโนเลต เพิ่มยาไฮดรอกซีคลอโรควิน หลังปรับยา อาการดีขึ้นช้า ๆ ผิวหนังดีขึ้น ไม่เหนื่อย
ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดครั้งแรก วันที่ 5 ธค. 2566 มีอาการน้อยมาก ได้ยาโมลนูพิราเวียร์ หายเร็ว ทั้ง ๆ ที่กินยากดภูมิคุ้มกัน ไม่มีอาการหลังการติดเชื้อไวรัสโควิด ค่อย ๆ ปรับลดยากดภูมิคุ้มกันลงเรื่อย ๆ ผิวหนังกลับมาเป็นปกติ เอกซเรย์ปอด และคอมพิวเตอร์ปอดดีขึ้นเกือบปกติ สมรรถภาพปอดความจุของปอดกลับมาปกติ วันที่ 17 ธ.ค. 2567 หลังจากรักษา 2 ปีกว่า ได้หยุดยากดภูมิคุ้มกันทุกตัว เหลือแต่ไฮดรอกซีคลอโรควิน กิน 1 เม็ด วันเว้นวัน ค่าอักเสบของเลือดปกติ ESR 8, hs-CRP 0.4
หมอมนูญ ระบุด้วยว่า โรคภูมิต้านตนเองที่เรียกว่า Anti-MDA5 antibody positive dermatomyositis มีมาเกือบ 20 ปีแล้วเป็นโรคหายาก พบน้อยมาก ๆ หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด mRNA เป็นพันล้านเข็ม มีรายงานการฉีดวัคซีน mRNA ทำให้เกิดโรคนี้ทั่วโลกประมาณ 50 คน
“คนไข้รายนี้น่าจะเป็นผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทย เริ่มมีอาการ 3 เดือนหลังฉีดวัคซีน mRNA เข็มที่ 2 และอาการกำเริบในเวลาเพียง 5 วันหลังฉีดเข็มวัคซีน mRNA เข็มที่ 3 เกิดปอดอักเสบรุนแรงและรวดเร็ว การฉีดวัคซีน mRNA กระตุ้นให้คนบางคนที่มีกรรมพันธุ์ (genetic predisposition) ให้สร้างภูมิต้านตนเองทำให้เกิดโรคนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าวัคซีน mRNA กระตุ้นการสร้างภูมิต้านตนเองอย่างไร”
หมอมนูญ ย้ำทิ้งท้ายว่า วัคซีนป้องกันโควิด mRNA ปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป โรคภูมิต้านตนเองที่เรียกว่า Anti-MDA5 antibody positive dermatomyositis เกิดขึ้นน้อยมาก ๆ หลังการฉีดวัคซีน mRNA ขอเตือนว่า ถ้าใครเกิดโรคภูมิต้านตัวเองชนิดนี้หลังฉีดวัคซีน mRNA ห้ามฉีดวัคซีน mRNA เข็มต่อไป เพราะจะทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงและรวดเร็ว ป่วยหนักได้