เช้านี้ที่หมอชิต - ข้ามปีไม่ทันไร ก็มีวัยรุ่น "อยากเคลียร์ปัญหา" แล้วตามเพื่อนไปคุยกับอีกฝั่ง แต่คุยกันท่าไหนไม่รู้ จบลงด้วยการทะเลาะวิวาท จนมีคนสังเวยชีวิตไป 1 ศพ เจ็บอีก 4 คน แล้วใครเศร้า ถ้าไม่ใช่พ่อและแม่
ได้ยินเสียงแม่เรียกดวงวิญญาณลูกชาย คือ นายเก้านภัส อายุ 17 ปี หรือ "รถถัง" ให้ตามกลับบ้านแบบนี้ ก็ชัดเจนว่าคนที่เศร้าคือ พ่อ และแม่ เหตุเกิดขึ้นในซอยวัดปฐมบุตรอิศราราม ซอยจรัญสนิทวงศ์ 45 แยก 7 เขตบางกอกน้อย ช่วงหลังเคานต์ดาวน์จบได้ชั่วโมงกว่า ๆ
ทีมข่าวตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิต ขี่รถจักรยานยนต์มากัน 3 คัน และลงไปมีปากเสียงกับวัยรุ่นเจ้าถิ่น ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะชักมีดออกมาไล่ฟันวัยรุ่นเจ้าถิ่น ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ รวมตัวและเกิดการทะเลาะวิวาท วิ่งไล่กันออกไปจากซอย
จากนั้น 1 ชั่วโมงให้หลัง กลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิตก็ไปชวนเพื่อน ๆ รวมถึงผู้เสียชีวิต กลับมาหากลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น ก่อนจะเกิดเหตุชุลมุนแทงกันขึ้น
ทีมข่าวได้พูดคุยกับเยาวชนชาย อายุ 14 ปี กลุ่มผู้เสียชีวิต ที่เข้าไปช่วยเหลือเพื่อนหลังเกิดเหตุ เล่าว่า มีรุ่นน้องมาขอความช่วยเหลือ ให้ไปช่วยเคลียร์กับกลุ่มคู่กรณี จึงชักชวนกลุ่มเพื่อนรวม 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน ไปในซอยที่เกิดเหตุ กระทั่งมาเจอฝั่งคู่กรณีมีประมาณ 30 คน ก็ถูกอีกฝ่ายไล่ฟัน จนต้องขี่รถหนี แต่ผู้เสียชีวิตหนีไม่ทัน ถูกถีบรถล้ม จึงวิ่งหนีเข้าไปในอะพาร์ตเมนต์ และถูกทำร้ายเสียชีวิต
ส่วนคนนี้ อายุ 17 ปี ชื่อแบงก์ หนึ่งในผู้บาดเจ็บถูกฟันหน้า บอกว่า ไม่รู้เรื่องเลยว่าจะไปเคลียร์กับคู่กรณี เข้าใจว่ามาชวนไปนั่งเล่นกัน เลยขี่รถตามไปด้วย พอไปถึงก็ถูกอีกฝ่ายไล่ทำร้ายจนเกือบไม่รอด แถมยังมีคนบุกมาต่อยหน้าตน ต่อหน้าตำรวจที่เข้าไประงับเหตุด้วย
ญาติได้เข้ารับศพผู้เสียชีวิต ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลศิริราช เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ขณะที่ พ่อผู้เสียชีวิต ยอมรับว่า ลูกชายออกจากบ้านไปหาเพื่อนทุกคืน และจะกลับช่วง 4-5 ทุ่ม แล้วคืนเกิดเหตุ ลูกบอกจะไปนั่งคุยกับเพื่อน แต่ไม่บอกว่าไปที่ไหน กระทั่งได้รับสายแจ้งข่าวร้ายว่าลูกถูกแทงเสียชีวิต ส่วนตัวเชื่อว่าลูกไม่ไปหาเรื่องใครก่อน แม้จะเพิ่งออกจากบ้านเมตตา เมื่อ 1 เดือนก่อน แต่ลูกกลับตัวแล้ว
ผู้กำกับการ สน.บางยี่ขัน ยืนยันว่าตอนนี้จับผู้ก่อเหตุได้คนเดียว เป็นเยาวชนชาย อายุ 16 ปี ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าใช้มีดแทงอีกฝ่ายจริง มูลเหตุมาจากการผิดใจกันของกลุ่มวัยรุ่น ไม่ใช่ลักษณะลวงมาทำร้าย
ส่วนคนก่อเหตุอีกคนที่ใช้มีดฟัน ผู้ปกครองประสานจะพาเข้าพบตำรวจ แต่ยังไม่มา ซึ่งตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งชุดสืบสวนไปติดตามตัวแล้วเช่นกัน
ส่วนกรณีที่ นายแบงค์ ถูกฟันหน้า อ้างว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้ใหญ่ เข้ามาต่อยหน้าระหว่างที่ทำแผล ต่อหน้าต่อตาตำรวจ ผู้กำกับการ สน.บางยี่ขัน ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
เบื้องต้นดำเนินคดีกลุ่มคนก่อเหตุ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร