ชายวัย 75 ปี ใช้จอบฟาดหัวหลานชายเสียชีวิต สารภาพเก็บความแค้นมานาน หลังหลานชายเคยทำโทรศัพท์มือถือพัง จนวันปีใหม่เกิดมีปากเสียงกันและได้เข้าต่อสู้กัน
วันนี้ (2 ม.ค. 68) จากกรณี นายมี อายุ 75 ปี ใช้จอบทุบหัว นายเชียร อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นหลานชาย จนเสียชีวิต ในพื้นที่ ต.ปงน้อย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยหลังก่อเหตุ นายมี ได้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอยหลวง พร้อมสารภาพว่า เมื่อปีก่อน ผู้ตายเคยเอาโทรศัพท์มือถือของตนปาลงพื้นอย่างไม่มีเหตุผลจนพัง ตนจึงผูกใจเจ็บตั้งแต่วันนั้น จนวันเกิดเหตุตนกับผู้ตายมีปากเสียงและชกต่อยกัน หลังจากถูกญาติเข้ามาแยก ตนก็ไปเคลียร์ปัญหาอีกรอบจนมีปากเสียงกันอีกครั้ง ผู้ตายคว้ามีดเข้ามาทำร้ายตนจึงเกิดการต่อสู้กัน กระทั่งผู้ตายล้มลง ตนจึงนำสันจอบฟาดเข้าที่บริเวณศีรษะของผู้ตาย 3 ครั้ง
วันนี้ (2 ม.ค. 68) ทางญาติได้เตรียมการจัดพิธีศพของ นายเชียร เพราะเพิ่งได้รับศพกลับมาจากกระบวนการชันสูตรที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อวานนี้ (1 ม.ค. 68) ที่ผ่านมา และได้พระอภิธรรมศพเป็นคืนแรก
ทาง นางจันทร์คำ อายุ 59 ปี อดีตภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายเป็นอดีตสามีซึ่งได้เลิกรากันมากว่า 10 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน หลังเลิกกันตนก็ย้ายไปอยู่บ้านอีกหลัง แต่ก็ยังอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างนี้เป็นบ้านของลูกที่สร้างให้อยู่อาศัย ผู้ตายชอบสูบบุหรี่ก็เลยไม่อยากไปนอนบนบ้านใหม่ จึงอาศัยนอนที่ห้องหลังบ้านมาโดยตลอด วันที่เกิดเหตุตนมาทราบเรื่องทีหลัง ตนไม่เคยทราบว่าทั้งคู่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้หรือไม่
ด้าน นางทองใบ อายุ 65 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ทั้งคู่เคยทะเลาะกันมาก่อน โดยนายมีหาว่านายเชียรทำโทรศัพท์มือถือพัง เจอกันที่ไหนก็ทะเลาะเพราะเรื่องนี้ตลอด และวันเกิดเหตุผู้คนในหมู่บ้านได้เลี้ยงฉลองส่งท้ายปีเก่า ทั้งคู่ก็ได้มานั่งดื่มเหล้าด้วยกันอีก กระทั่งคนก่อเหตุพูดเรื่องมือถือขึ้นมา ทั้งคู่จึงมีปากเสียงกัน จากนั้นนายเชียรได้เอาเท้าไปขวางทำให้นายมีสะดุดล้ม จึงทำให้ทะเลาะกันรุนแรงขึ้น ก่อนจะแยกย้ายกันไป หลังจากนั้นมีเพื่อนบ้านมาทราบอีกทีตอนที่นายมีเดินกลับไปบ้านที่จัดงานฉลองส่งท้ายปี โดยมีเลือดเลอะตามเนื้อตัวเสื้อผ้าเต็มไปหมด และนายมีได้บอกกับเพื่อนบ้านว่าได้ลงมือฆ่านายเชียรไปแล้ว ถ้าไปเชื่อให้ไปดูที่บ้านนายเชียรได้เลย หลังจากนั้นเพื่อนบ้านก็เลยไปดูก็พบศพนายเชียรตามที่นายมีบอก ทางญาติของทั้งสองฝั่งต่างรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ประกันตัวเพราะไม่มีเงิน