ทักษิณ ลุยหาเสียง อบจ.เชียงราย ขอคะแนนให้ สลักจฤฎดิ์ สมเพชพวกด่ารัฐบาลชีวิตสิ้นหวัง มองโลกแย่ไปหมด อยากโยนเชือกให้ผูก 29 ม.ค.นี้ สูงวัยเตรียมรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต คนหนุ่มสาวขอให้รออีกหน่อย
วันนี้ (5 ม.ค.68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกอบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 โดยระบุว่าวันนี้ตนใส่แว่น เพื่อปกปิดความแก่ จะได้ไม่รู้ว่าแก่ อายุ 75 จะ 76 ปีแล้ว แต่ใจก็ยังนึกเป็นห่วงพี่น้อง วันนี้ได้มาเชียงรายอีกครั้ง ก็มาดูความเรียบร้อย
“วันนี้มาด้วย 3 เหตุผลเหตุผลที่ 1 คือ คิดถึงชาวเชียงราย ไม่ได้เจอกันมา 20 กว่าปี ที่มาที่นี่เพราะอยากจะมาหาชาวเชียงรายที่ไม่ได้เจอกันนาน เหตุผลที่ 2.คือ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นน้องรักของผม เป็นน้องที่สร้างพรรคมาด้วยกัน และสมัยที่เป็นนายกฯ เขาก็เป็นเลขาธิการนายกฯ มาตลอด เพราะฉะนั้นวันนี้ นายยงยุทธตัดสินใจ ว่าจะส่ง นางสลักจฤฎดิ์ ลงนายก อบจ. ที่มาก็คือมาสนับสนุนนางสลักจฤฎดิ์ให้ชนะเลือกตั้ง และเหตุผลที่ 3. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นลูกสาวของผม ผมก็มีหน้าที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นพรรคที่สร้างมา วันนี้เลยตัดสินใจต้องมาเชียร์นางสลักจฤฎดิ์ เต็มที่ และหวังว่าประชาชนชาวเชียงรายจะเลือกเบอร์ 2”
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เดิมทีเดียว ตนไม่ได้สนใจกับการเมืองท้องถิ่น เพราะก่อนหน้านั้นเป็นรัฐบาลมาจากพรรคใหญ่ เรามีกลไกในทุกกระทรวง แต่วันนี้เราไม่ได้มี สส. 200 เหมือนเมื่อก่อน ในการเลือกตั้งสมัยหน้าก็ขอให้คืน สส.ให้กับพรรคเพื่อไทยให้หมด ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงมองว่า การเมืองท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญ และตอนที่กลับมาประเทศไทย นั่งดูปัญหาทุกเรื่องสิ่งที่เคยแก้ไว้ในสมัยก่อน มันหาย หายไปหมด 17-18 ปี ที่ตนไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ระบบเสียหายไปหลายอย่าง วันนี้เลยต้องมานั่งดูว่าจะทำอย่างไรบ้างที่จะทำให้ต่างจังหวัดฟื้นก่อน หากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดฟื้นมีกินมีใช้ อีกหน่อยเศรษฐกิจประเทศก็จะดี
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า หมู่คนแอฟริกา ดำก็ดำ จมูกก็แหมบ หายใจก็ยาก โดนเขาจ้างไปเป็นนางแบบ เดินแบบครั้งหนึ่งเป็นล้านบาท เด็กบ้านเรายังหน้าตาดีกว่า ไม่ต้องไปทำจมูก เสริมกราม ต่อไปนี้เราจะคัดคนบ้านเรา ที่เป็นชนชาติไทย คนดอย คนกะเหรี่ยง ที่สวยธรรมชาติ ไม่ต้องไปเสียเงินทำจมูก เสริมนม ใครบุคลิกดีก็ส่งไปเป็นนางแบบระดับโลก
นายทักษิณ ได้ถามชาวบ้านที่มาฟังปราศรัยว่า ใครเล่นติ๊กต๊อกบ้าง 2-3 วันนี้ ตนว่างวันหยุดก็เลยนั่งดูตามโซเชียล "ไอ้พวกนี้นะ ชีวิตมันอีกนิดเดียว ก็จะผูกคอตาย เพราะมันมองโลกแย่ไปหมด ตื่นมาก็เห็นว่าโลกไม่ดีแล้ว อีกไม่กี่วัน จะส่งเชือกให้ ตื่นเช้ามาก็ด่ารัฐบาล บ่ายมาก็ด่ารัฐบาล ด่าอยู่นั้นมีอยู่ 4-5 ตัว ที่ด่า พวกนี้สงสัยคงอยากได้เชือก แต่มีอยู่ไม่กี่คนตื่นเช้ามาก็ด่ารัฐบาล เหลือแต่ด่าพ่อด่าแม่ตัวมัน รู้สึกสมเพชคนพวกนี้ อยากจะเอามาฝึกอาชีพ แต่ดูท่าแล้วจะเป็นคนไม่ขึ้นซ้าง ทำนองว่ามีหลักไว้ให้แต่ไม่เลื้อยขึ้น เลื้อยลงตลอด เราเอาคนไทยทั้งหมดอยากขึ้นซ้าง งั้นเรามาทำซ้างให้คนไทยขึ้น
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลประกาศไว้เทคโนโลยีจะเสร็จเดือน มี.ค. พอเสร็จแล้วเราก็จะโอนเงินให้คนที่มีต่ำกว่าอายุ 60 ปีลงมา ส่วนวันที่ 29 ม.ค. นี้ จะเป็นเงินให้สำหรับคนที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป และจะให้คนหนุ่มสาว เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี เพราะอีกหน่อยการติดต่อกับรัฐบาลจะผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งหมด
“เงินไม่ใช่ทุกอย่างแต่เป็นเกือบทุกอย่าง ถ้าไม่มีเงินไม่รู้จะทำอย่างไร ใช้เงินสร้างเศรษฐกิจ สร้างความสุขในครอบครัว ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีก็ลำบาก ตนได้ไปพบกับคนคนหนึ่ง เขามาหาตน บอกมีวันนี้ได้ เพราะสมัยที่ตนเป็นนายกฯ กลับมาวันนี้ตนเห็นประเทศทรุดไปมาก ถามว่าจะทำได้หรือไม่ ทำได้แต่อาจจะยากหน่อย”
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไปถามว่าคนในครอบครัวว่าใครจะอาสาเป็นนายกฯ นายกฯอิ๊งค์ ลูกคนเล็ก ก็อาสาเพื่อจะเสียสละทำงานให้บ้านเมือง ที่ผ่านมามีคนไปกระท่อนกระแท่นว่า น.ส.แพทองธาร มีเครื่องแต่งตัวเยอะ เพราะนายกฯอิ๊งค์เป็นลูกคนสุดท้อง ตนเป็นคนหลงลูกสาว ตนจึงซื้อของแต่งตัวให้เยอะ มีอะไรก็ซื้อให้หมด ก็เลยมีของเยอะเพราะพ่อซื้อให้ ซื้อให้เอาใจแล้วปีนี้เลยต้องใช้งาน และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกฯแพทองธาร จะแก้ปัญหาประเทศรอบนี้ได้ ปีนี้ ปี 68 ประชาชนจะเห็นว่าเริ่มฝันได้ และปลายปีก็จะต้องฝันแล้วว่าปีหน้าเราจะทำอะไร ปี68 ต้องเป็นปีที่ทุกคนขยันทำงาน ทั้งรัฐบาลและองค์กรท้องถิ่น รวมถึงจะจัดการให้เรียบทั้งปัญหายาเสพติดและคอลเซ็นเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปราศรัยช่วงหนึ่งชาวบ้านที่มาฟังปราศรับ ตะโกนขึ้นว่า ให้นายทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณจึงตอบกลับว่า แก่แล้ว ขอสนับสนุนให้ลูกเป็น แล้วคอยส่งเสริมดีกว่า ได้ค่าช่วยหาเสียงวันละ 300 บาท วันนี้มา 3 เวที ได้เวทีละ 100 บาท มาลำบากก็ตอนแก่ เมื่อก่อนตอนไม่เล่นการเมืองก็สบาย มีเงินอยู่ 60,000 ล้านบาท พออยู่ไปอยู่มา ก็จนลงเพราะโดนยึดบ้าง โดนหาเรื่องบ้างสารพัดอย่าง
"ไอ้พวกควายพวกนี้ หาว่าผมไปเอาตังค์ที่ไหนมา ก็กูรวยตั้งแต่ปี 35-36 แล้ว ตอนนั้นผมรวยที่สุดในประเทศ แต่ตอนนี้จนพอ ๆกับชาวเชียงราย"
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ความคิดของคนไม่เหมือนกันตนมีความคิดแบบคนสมัยใหม่ คนรุ่นเก่าบางคนออกมาด่าตนสารพัด มีอยู่คนหนึ่งหาว่าตนสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่แพ้การเลือกตั้งตนเมื่อปี 2544 ก็แค้นจนถึงทุกวันนี้ คนที่มาด่าตน เขตเลือกตั้งมี 450 คน เลือกเขาแค่ 47 คนแก่แล้วยังลงเลือกตั้งอยู่ แต่ตนพอแล้ว ไม่อยากอะไรแล้วช่วยประชาชนดีกว่าทำงานให้บ้านเมือง ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร
“เป็นชาวเกาะ แก่แล้วกลับมาเป็นชาวเกาะ เกาะเมียกิน ต้องยอมรับว่าตอนนี้บ้านเราหนี้ประชาชนสูง หนี้ประเทศสูง ขอเวลาอีก 2 ปี หนี้ประเทศจะลดลง”
นายทักษิณ กล่าวว่า บ้านเรามีเสือนอนกิน มีทุกที่วงการ กำลังนั่งไล่ให้รัฐมนตรีไปพูดกับข้าราชการ ก็มีคำแก้ตัวสารพัด นายกฯก็ไปพูดกับรัฐมนตรีว่าต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะเปลี่ยนคนมาแทน รัฐมนตรีจึงจะกระเตื้อง อย่างเช่นเรื่องข้าว เรื่องไฟฟ้า ปีนี้ค่าไฟฟ้าจะต้องลงไปอยู่ที่เลข 3 ไม่ใช่เลข 4 ใจตนอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่คงได้แค่ 3.70 บาท กำลังให้เขาช่วยทุบอยู่ ปีนี้ค่าไฟลงแน่เห็นตัวเลขแล้วทุบได้ ต่อไปค่าอาหารสัตว์ ค่าปุ๋ย ค่ายาก็จะให้ลง เรื่องนี้จะต้องทำให้เป็นจริงภายในปีนี้ให้หมดทุกอย่างถึงบอกว่าปีนี้รัฐบาลต้องทำงานหนัก 1. ยาเสพติด ต้องเอาให้เกลี้ยง 2. Call Center ต้องเอาให้เกลี้ยง 3. การผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด เพื่อให้พี่น้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตต่ำลง ทำรายได้ให้ดีขึ้น มีโอกาสดีขึ้น ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในปี 68
จากนั้นได้มีชาวบ้านตะโกนขึ้นมาบอกนายทักษิณให้ข่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกิน นายทักษิณ จึงตอบกลับไปว่า ส่วนเรื่องโฉนดที่ดินทำกินทั้งหลาย กำลังคุยกันอยู่อย่างที่ดินสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) จะให้เป็นแค่โฉนด ส.ป.ก.ไม่ได้ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นโฉนดจริง ที่สามารถทำมาหากินได้ ส่วนที่ถูกนายทุนยึดไป ถ้ายึดไปได้ก็ยึดคืนมา แต่ถ้าเขาเอาไปสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้ว ก็ต้องให้เขาเสียค่าเช่า เพราะเจตนารมณ์ของ ส.ป.ก. เพื่อที่จะช่วยชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินและไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่แน่นอน
ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาประเทศได้ไม่เกินมือ แต่ยาก เมื่อก่อนต่างจังหวัดบ้านเรายังโอเคมันพังแค่ที่กรุงเทพฯแต่ตอนนี้มันพังทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมวลชนที่เดินทางมาฟังนายทักษิณปราศรัยในเวทีนี้ มีกว่า 10,000 คน โดยเดินทางมาจาก 4 อำเภอ คือ อำเภอเทิง อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย