ท่องเที่ยวและกีฬามหาสารคาม แจงดรามา เงื่อนไข-เกณฑ์ตัดสินประกวดแมสคอต ผลงาน “น้องปูกลอง” ง่ายต่อการจดจำ ยันตรวจสอบแล้วไม่มีก๊อปปี้ผลงาน
วันนี้ (5 ม.ค.68) จากประเด็นดรามาผลการตัดสินการประกวดออกแบบแมสคอตจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัล คือผลงาน “น้องปูกลอง” ได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตว่า การออกแบบไม่สากล ไม่ทันสมัย พร้อมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการตัดสินของคณะกรรมการ โดยชาวเน็ตยังได้แชร์ผลงานการออกแบบของ “น้องจำปาแป้ง” ซึ่งเป็น 1 ในงานที่ผ่านเข้ารอบ 1 ใน 5 ผลงาน คอมเมนต์ชื่นชมผลงานการออกแบบจำนวนมา
ภายหลังจากเกิดกระแสดรามา เจ้าของผลงานน้องจำปาแป้ง ได้โพสต์ชี้แจงว่า ไม่ได้โพสต์เพราะโบกรถทัวร์ให้ไปลงใคร ไม่ได้เจตนาอัพงานไปเรียกแขกให้มาดูว่าของเราดีกว่า แค่อยากอัพเก็บไว้ดูเฉย ๆ เพราะมีอีกหลายคนที่ไม่ได้เห็นแนวคิดแบบละเอียดของยัยปูอ้วน ทุกผลงานสวยหมด งานศิลปะไม่มีงานไหนไม่สวย มีแค่ถูกใจกับไม่ถูกใจ ตลาดคนละกลุ่มกัน รสนิยมต่างกันทุกคนตั้งใจหมด น้องคนชนะก็ทำเต็มที่มาก ๆ วันพรีเซ็นต์นั่งข้าง ๆ กันเลย เส้นสายมีมั้ยไม่รู้ มันเป็นเรื่องหลังบ้าน แต่ความพยายาม น้องมีค่ะ เราสัมผัสได้ ไม่อยากให้ไปแบลมผลงานหรือตัวน้อง น้องพึ่งอยู่ปี 1 เอง ถ้าจะตั้งคำถามก็ตั้งคำถามกับระบบการประเมินดีกว่า ซึ่งเขาก็คงมีเกณฑ์การตัดสินของเขาที่ผู้เข้าร่วมก็ต้องยอมรับให้ได้ ผิดหวังเสียใจก็มูฟออนไปต่อ
แต่ผลงานตัดสินของกรรมการก็ถือเป็นที่สิ้นสุด เอ็นดูไม่เอ็นดูยังไงผลก็ออกมาแล้ว อยากสนับสนุนให้ใช้คำพูดที่ใจดีต่อกันดีกว่านะคะ จะได้ช่วยกันคนทำงานศิลปะออกสู่สังคมให้มีคุณภาพกันแบบจิตใจไม่บอบช้ำมากจนเกินไป แล้วก็ขอบคุณคนที่มอบความรักและเอ็นดูน้องจำปาแป้งเยอะขนาดนี้ คนออกแบบก็มีกำลังใจพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้นไปอีก จะเอาทุกคอมเมนต์ทั้งชื่นชมและแนะนำไปปรับแก้ไข จะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อสร้างความสดใสส่งต่อความรักให้โลกนี้ต่อไปค่ะ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์ นายการเอก สำราญชลารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากที่มีกระแสความเห็นไม่สอดคล้องกันในเรื่องผลการประกวดออกแบบแมสคอตประจำจังหวัดมหาสารคาม ขอชี้แจงว่า ประเด็นแรกเรื่องของกระบวนการประกวด จังหวัดมหาสารคามได้ประชาสัมพันธ์และเชิญชวนสถาบันการศึกษาและบุคคลทั่วไปจากทั่วประเทศส่งผลงานแมสคอตเข้าประกวด แจ้งไปยังสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ 117 แห่ง มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด 80 ผลงาน โดยเป็นผู้ส่งผลงานในจังหวัด 52 ราย ต่างจังหวัด 28 ราย
ประเด็นที่ 2 หลักเกณฑ์เงื่อนไขการประกวด เน้นในเรื่องของการออกแบบที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของจังหวัดมหาสารคาม มีความเป็นสากล ง่ายต่อการจดจำต่อการเป็นจังหวัดมหาสารคาม มองแล้วรู้ว่าเป็นมหาสารคาม ประเด็นที่ 3 เกณฑ์การตัดสินผลงานมี 2 รอบ รอบที่ 1 เปิดให้มีการโหวตแมสคอตทั้ง 80 ผลงาน ทาง google form ระหว่างวันที่ 12 – 22 ธ.ค.67 รวม 17 วัน ซึ่งมีผู้โหวตทั้งสิ้น 2,141 คน และผลงานที่มียอดโหวตสูงสุดอันดับ 1 – 5 ผ่านเข้ารอบตัดสิน โดยที่ทั้ง 5 ผลงานนั้น เป็นของนักศึกษาจังหวัดมหาสารคาม 2 ราย และอีก 3 ราย เป็นนักศึกษาสถาบันในจังหวัดอื่น
ส่วนการตัดสินผลงานรอบที่ 2 จังหวัดมหาสารคาม ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคมต่าง ๆ มาร่วมโหวต โดยให้เจ้าของผลงานนำเสนอคลิปผลงานหรือนำเสนอด้วยตนเอง โดยครั้งที่ 1 ในการประชุมคณะกรมการจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งที่ประชุมประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ อธิการบดีสถาบันการศึกษา ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ประธานกรรมการธรรมภิบาลจังหวัดมหาสารคาม และผู้แทนภาคเอกชนที่สำคัญ และครั้งที่ 2 ได้มีการโหวตโดยภาคเอกชน อาทิ หอการค้า กลุ่ม YEC สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ชมรมกีฬา คณะครู บุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา โหวตกันที่วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม
ผลงานที่ได้รับการโหวตสูงสุดนั้น ถ้าพิจารณาในภาพรวมทั้ง 5 ผลงานที่เข้ารอบ ทั้งหมดสื่อในเรื่องอัตลักษณ์มหาสารคาม แต่ที่ได้รับการโหวตจากผู้เข้าร่วมโหวตทั้ง 205 คน อาจเนื่องจากผู้โหวตเห็นว่า ผลงานดังกล่าวง่ายต่อการจดจำในฐานะความเป็นจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งปูทูลกระหม่อมเป็น 1 ในเอกลักษณ์ของจังหวัดมหาสารคาม ที่ผู้คนรู้จัก และกลองยาวก็เป็น 1 ในงานประเพณีประจำจังหวัดมหาสารคามที่มีชื่อเสียง
สำหรับผลงานที่ชนะเลิศนี้ มีลักษณะคล้ายกับสัญลักษณ์การแข่งขันกีฬาที่ผ่านมา ขอชี้แจงว่า ได้ตรวจสอบแล้ว ไม่ได้เป็นการก๊อปปี้ผลงาน แต่ด้วยลักษณะของโครงสร้างที่นำปูมาออกแบบ และใช้สีเป็นสัญลักษณ์ของปูทูลกระหม่อมอยู่แล้ว จึงขอเรียนยืนยันว่า ผลงานที่ชนะการประกวดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทุกประการ
ทั้งนี้ แนวคิดของแมสคอต น้องปูกลอง คือทุกองค์ประกอบของน้องเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ตัวของน้องปูเป็นตัวแทนของปูทูลกระหม่อม สัตว์ประจำท้องถิ่นของจังหวัดมหาสารคาม ที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและยังเป็นสัญลักษณ์ของการรักษาสมดุล ของระบบนิเวศน์ในท้องถิ่น กลองยาว สื่อถึงเสียงแห่งศิลปะการแสดงประเพณีและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก เป็นผลงานภูมิปัญญาชาวมหาสารคามที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ และยังสะท้อนถึงความประณีตงดงามในท้องถิ่น และผ้าขาวม้าที่น้องสวมใส่คือสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์ความเป็นไทย และแสดงถึงความอบอุ่น ความเป็นมิตรชองชาวบ้านในชุมชน น้องปูกลองทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการอนุรักษ์ธรรมชาติและความเป็นไทย น้องจะช่วยสื่อสารและส่งต่อคุณค่าของชาวมหาสารคามให้คนรุ่นใหม่เกิดความภาคภูมิใจในจังหวัดของตน
ส่วนแนวคิดของน้องจำปาแป้ง ตัวแทนแห่งความสดใสและเยาว์วัย มีที่มาจากสีคีย์เวิรด์หลัก คือ ดอกจำปาขาว ปูแป้ง เมืองแห่งการศึกษา และลายสร้อยดอกหมาก ออกแบบภายใต้แนวคิดถิ่นฐานอารยธรรม นำเสนอความมีชีวิตชีวา ความบริสุทธิ์นุ่มนวล และความหลากหลายทางวัฒนธรรม แรงบันดาลใจ การเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม นำสีขาวมาเป็นตัวแทนของสิ่งนามธรรม อย่างความเชื่อ ศาสนา การศึกษา และการเรียนรู้ ดอกจำปาขาว โดยใช้รูปทรงของดอกจำปาขาวมาทำเป็นเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ปูแป้ง หรือปูทูลกระหม่อม โดยนำรูปทรงของปูแป้งมาลดทอนองค์ประกอบให้เหมือนกับตัวการ์ตูนมีความน่ารักสดใส ลายสร้อยดอกหมาก ซึ่งเป็นลายผ้าประจำจังหวัดมาใช้เป็นลวดลายบนตัวมาสคอต เชิดชูความเป็นอีสานตัวผ้าเบี่ยง หรือผ้าพาดไหล่ลายผ้าขาวม้าสีเหลือง ใบไม้สีเขียวได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไม้ที่อยู่ในธงประจำจังหวัดมหาสารคาม
สีที่ใช้เน้นสีพาสเทล ที่ให้ความสดใสร่าเริง เพื่อให้ดูเป็นมิตรไม่จัดจ้าน สีขาวมาจากสีของนักศึกษา สีของพระธาตุนาดูน และสีของดอกจำปาขาว สีเหลือง คือสีประจำจังหวัด และสีของผ้าห่มองค์พระธาตุนาดูน สีเขียวมาจาก สีของต้นไม้ใหญ่ในธงประจำจังหวัดมหาสารคาม และสีชมพู ฟ้า ส้ม เป็นสีที่ได้จากปูแป้ง ซึ่งเดิมทีคือสีแดงน้ำเงินส้ม เพื่อทำให้แมสคอตดูเป็นมิตร ไม่รู้สึกอันตราย