สนามข่าว 7 สี - ความคืบหน้าสถานบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ถูกวิจารณ์หนักเกี่ยวกับการถ่ายบัตรประชาชนลูกค้า รวมถึงมีการกล่าวหาทั้งเรื่องส่วย และยาเสพติด ล่าสุดเมื่อวาน (5 ม.ค.) มีลูกค้าเดินทางเข้าแจ้งความจำนวนมาก รวมแล้วกว่าร้อยคน
ลูกค้าร้าน "เดอะ มูนบาร์" ย่านบางใหญ่ ทยอยเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพราะเกรงว่าอาจได้รับความเสียหาย หลังถูกถ่ายบัตรฯ ตอนไปใช้บริการ และบางคนอ้างว่ามีเว็บไซต์พนันออนไลน์ส่งข้อความเข้ามา จึงต้องการให้ตำรวจช่วยตรวจสอบ
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ สภ.บางใหญ่ ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ PDPC หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงประเด็นต่าง ๆ ยืนยันว่าขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนว่าการถ่ายบัตรฯ ไปนั้น ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือไม่ และเป็นการเก็บข้อมูลเกินความจำเป็นหรือไม่
ส่วนกรณีสั่งปิดร้านเป็นเวลา 5 วันนั้น ฝ่ายปกครองชี้แจงว่าเป็นการขอความร่วมมือให้ร้านเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ ให้เสร็จ แต่จากการเข้าตรวจค้น 2 คืน ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
ส่วนกระแสข่าวที่อ้างว่าเจ้าของร้านมีพ่อเป็นตำรวจนั้น ผู้กำกับการ สภ.บางใหญ่ บอกว่ายังไม่พบข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวาน (5 ม.ค.) ก็มีเรื่องเพิ่มอีกจนได้ เพราะนักท่องราตรีรายหนึ่งนำคลิปอ้างว่าเป็นหลักฐานที่นักเที่ยวคนหนึ่งกำลังเตรียมจะเสพยาที่หน้าห้องน้ำภายในสถานบันเทิง โดยเป็นภาพซองยาเสพติดวางอยู่บนโต๊ะ
ซึ่งถ้าหากคลิปดังกล่าวเป็นของจริง ก็จะสวนทางกับที่มีการตรวจสอบว่าร้านนี้ไม่มียาเสพติด
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้คุยกับ "นายต่อ" เจ้าของร้าน "เดอะ มูนบาร์" ซึ่งพร้อมเปิดหน้าสู้ข้อครหาในประเด็นต่าง ๆ ทั้งกรณีถ่ายบัตรประชาชน รวมถึงเรื่องส่วย และเรื่องอื่น ๆ
ประเด็นเรื่องการถ่ายบัตรประชาชน ยืนยันว่าได้มอบหมายให้ผู้จัดการร้านรับผิดชอบ ย้ำว่าต้องให้ลูกค้ายินยอม หากไม่ยินยอมจะไม่ถ่าย และจะไม่อนุญาตให้เข้าไปใช้บริการในร้าน โดยวิธีการถ่ายต้องถ่ายด้านหน้า และปิดเลขบัตรฯ ห้ามถ่ายด้านหลัง
จากนั้นจะถ่ายรูปหน้าลูกค้า โดยแยกจากบัตรประชาชน พร้อมกำชับให้ลบข้อมูลในวันรุ่งขึ้น หากไม่มีเหตุที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ หรือ อำเภอบางใหญ่ ขอมา
โดยเหตุผลหลักที่ถ่ายรูปก็เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดี หากมีการกระทำผิดภายในร้าน ทั้งทะเลาะวิวาท หรือ ลักทรัพย์ หรือ ยาเสพติด
เจ้าของร้าน "เดอะ มูนบาร์" บอกว่า หากร้านได้กระทำผิดก็พร้อมยอมรับผิดตามกฎหมาย และขอโทษสังคม พร้อมยืนยันจะไม่แจ้งความเอาผิดลูกค้า หรือ ดำเนินคดีใด ๆ หากร้านไม่ได้รับความเสียหายที่ชัดเจน