เจ๊อ้อยบินกลับไทย ให้ปากคำเพิ่มเติมคดีทนายตั้ม "วัชรินทร์" เผย เรียกสอบเพิ่ม 15 ปาก เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม
วันนี้ (7 ม.ค.68) ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี นางจตุพร หรือคุณอ้อย เศรษฐีนีเจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส พร้อมด้วย น.ส.ปัทมพร หรือคุณน้อย เลขานุการส่วนตัวเดินทางมาตามนัดคณะทำงานอัยการและพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมคดีที่กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวกผู้ต้องหา ในความผิดฐานฉ้อโกงฯ ร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
โดยนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน กล่าวว่า คดีนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 เป็นคดีนอกราชอาณาจักรที่เป็นอำนาจของท่านอัยการสูงสุด ซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวนเข้ามาร่วมสอบสวนคดี โดยอัยการจะมีอำนาจหน้าที่ออกคำสั่งหรือให้คำแนะนำในการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ซึ่งทางคณะพนักงานอัยการได้ร่วมประชุมกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามแล้ว เมื่อได้ดูสำนวนแล้วก็ยังมีประเด็นที่จะต้องสอบถามข้อเท็จจริงนางจตุพรบางอย่าง ที่การสอบสวนในชั้นกองปราบยังไม่ปรากฏชัดขึ้นมา นอกจากนี้ ยังมีพยานบางปากที่ยังไม่ได้สอบสวน เราก็เรียกมาสอบสวนด้วย และจะดูข้อเท็จจริงด้วยว่าหากพยานหลักฐานถึงใคร ก็อาจจะต้องดำเนินคดีเพิ่มเติม ในอนาคตอาจจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมเราก็จะต้องพิจารณาต่อไป
คดีนี้เรามีกรอบระยะเวลาในการพิจารณา เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักรอำนาจการสั่งคดีเป็นของอัยการสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้เราจะเสนอถึงอัยการสูงสุดภายในวันที่ 15 ม.ค. ซึ่งจะทันในช่วงระยะเวลาฝากขังครั้งสุดท้าย ให้คณะทีมงานกลั่นกรองของท่านอัยการสูงสุดมีเวลากรองสำนวนก่อนส่งให้ท่านอัยการสูงสุดพิจารณา และให้ยังพอมีเวลาเผื่อหากท่านอัยการสูงสุดมีประเด็นที่อาจจะสั่งสอบสวนเพิ่มเติมอีก
ส่วนฝั่งผู้ต้องหาตอนที่เราเข้ามาร่วมสอบสวนยังไม่มีการร้องขอความเป็นธรรมเพิ่มเติมเข้ามา แต่ถ้ามีร้องเข้ามาเราก็จะต้องมาดูประเด็นอีกทีว่า มีประเด็นเพียงพอที่เราจะต้องสั่งสอบสวนเพิ่มเติมตามคำร้องหรือไม่ โดยหลังจากนี้สำนักงานการสอบสวนจะเรียกพยานในคดีมาสอบสวนเกือบทุกวัน และอาจมีพยานบางปากที่อัยการต้องไปสอบสวนนอกสถานที่ สำหรับพยานที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมจะมีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นพยานที่เกี่ยวกับเส้นทางการเงิน หรือเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่จะเป็นประเด็นพิสูจน์ได้ว่าผู้ต้องหามีความผิดหรือความบริสุทธิ์ ตอนนี้ที่เราทำบัญชีพยานไว้มี 15 ปาก ซึ่งมีบางปากเคยสอบสวนไปแล้ว เเต่เราต้องการสอบสวนเพิ่มเติม
“ประเด็นที่เราต้องเอาให้เคลียร์เป็นประเด็นของตัวผู้เสียหายกับพยานแวดล้อมที่เกิดขึ้น เรื่องนี้มีอยู่ 3 ประเด็น เราจะสอบสวนให้ชัดเจน ที่ต้องเชิญ น.ส.จตุพรเเละเลขาฯ มาก็เป็นประเด็นสำคัญ เพราะคนเปิดคดี“รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนระบุ
ด้าน น.ส.จตุพร กล่าวว่า ตนเดินทางกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อมาให้การสอบสวนเพิ่มเติมตามที่พนักงานอัยการได้แจ้งมา สำหรับการสอบสวนในวันนี้ตนไม่มีหลักฐานมาเพิ่มเติม แต่มาให้ข้อมูลที่ทางพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการเห็นว่ ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเท่านั้น ทั้งนี้ ตนพร้อมจะให้ความร่วมมือในการสอบสวน เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการการสอบสวนที่มีความรัดกุมว่าจะเอาผิดกับพวกผู้ต้องหาได้ และขอยืนยันว่าตนจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีการยอมความ และได้มอบหมายให้ทางคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มาช่วยดูแลในคดีนี้อย่างเต็มที่ หากจะมีการเจรจาต้องไปพูดคุยกับทางคุณสนธิเท่านั้น ส่วนตนยืนยันว่าไม่มีการยอมความแน่นอน