ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ความคืบหน้ากรณีไรเดอร์หญิง ขี่รถจักรยานยนต์มาเทขยะ-ราดน้ำหน้าร้านอาหาร ถูกตำรวจออกหมายเรียกแล้ว แต่สอบถามเจ้าตัว ยืนยันไม่เข้าพบตำรวจ อ้างกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะคนอื่นยังทิ้งขยะลงบนถนนได้ ยังไม่ถูกจับ ทำไมตัวเองจะทิ้งไม่ได้
จากกรณีเจ้าของร้านอาหาร โพสต์คลิปวงจรปิดหน้าร้าน บันทึกภาพพฤติกรรมของไรเดอร์หญิง หมวกกันน็อกหูแมว นำขยะและของเหลวบรรจุขวดมาเทเรี่ยราดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในซอยอนามัย 2 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา และก่อนหน้านั้นก็เคยนำทิชชู่ที่ใช้แล้ว และรองเท้าผ้าใบเก่า 1 ข้าง มาทิ้งไว้หน้าร้าน หลังเกิดเหตุ เจ้าของร้านอาหารได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวานที่ผ่านมาแล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับไรเดอร์หญิงรายดังกล่าวทางโทรศัพท์ สอบถามถึงสาเหตุที่ทิ้งขยะหน้าร้านดังกล่าว เจ้าตัวบอกว่ากรณีที่นำรองเท้าไปวางทิ้งหน้าร้าน เพราะไม่พอใจที่เจ้าของร้านที่เป็นผู้ชาย นั่งหันเท้ามาหน้าร้าน และหันใส่หน้าตนเอง ขณะจะไปรับอาหาร ตนจึงนำรองเท้าไปหันใส่คืน เพราะตรงนั้นเป็นถนนสาธารณะ ใครจะทำอะไรก็ได้
ไรเดอร์หญิงรายนี้ยังยืนยันว่า ไม่ขอเข้าพบตำรวจตามหมายเรียก เพราะกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ และถนนดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ ใครจะทิ้งก็ทิ้งได้ คนอื่นยังทิ้งได้ ไม่เห็นถูกจับ ไปบังคับใช้กฎหมายกับคนอื่นให้ได้ก่อน ก่อนจะมาใช้กฎหมายกับเรา อีกทั้งก่อนหน้านี้ ตนเคยถูกรถชนบาดเจ็บที่ขา ไม่สามารถวิ่งรับงานได้เป็นสัปดาห์ แต่คู่กรณีชดเชยมาแค่ 300 บาท ตนแจ้งความตำรวจไปตามผู้หญิงคนนั้นมาชดเชยค่าเสียหาย ก็ทำให้เราไม่ได้ แต่พอคนมีตังค์แจ้งความ ทำไมถึงทำให้เร็วจังเลย แม้ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่ตนทิ้งขยะ แต่อยากอ้างถึงว่า กฎหมายมีการเลือกปฏิบัติ
สอบถาม พันตำรวจเอก ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น ให้ข้อมูลว่า เมื่อวานนี้ (6 ม.ค.) พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกตัวผู้ก่อเหตุครั้งที่ 1 ไปแล้ว และตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้นำหมายเรียกไปส่งให้ผู้ก่อเหตุที่บ้านแล้ว แต่ไม่มีคนอยู่ ซึ่งตามกระบวนการต้องรอให้ผู้ก่อเหตุมาแสดงตัวตามหมายเรียกเท่านั้น หากไม่มาตามหมายเรียก ภายใน 7 วัน ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และหากยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนอีก ก็จะต้องออกหมายจับ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่พบตัวที่ใด ก็สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันที
และจากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ไม่ได้ก่อเหตุเพียงจุดเดียว แต่ยังตระเวนก่อเหตุอีกหลายพื้นที่ ทั้งนี้จากข้อมูลที่มี พบว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมคล้ายกับคนมีอาการทางจิต แต่ยังไม่สามารถฟันธงได้ ต้องรอผู้ก่อเหตุมาแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนก่อน จากนั้นจะส่งตัวผู้ก่อเหตุไปพบแพทย์ ซึ่งต้องรอการพิสูจน์จากเเพทย์ เพื่อยืนยันว่าผู้ก่อเหตุเข้าข่ายป่วยทางจิตหรือไม่
