จนมุมแล้ว ไอ้เหน่ง แก๊งค้ายา ยิงสู้ตำรวจสายไหมเปิดเส้นทางหลบหนี ไปกบดานประเทศเพื่อนบ้าน ประวัติก่อคดีโชกโชน ยึดปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก
ความคืบหน้าคดีแก๊งค้ายาเสพติดยิงสู้ตำรวจเปิดทางหลบหนี ล่าสุดวันนี้ (9 ม.ค.68) พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม พร้อมกำลังตำรวจ ไปควบคุมตัวนายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ฐานร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยจับกุมได้วานนี้ ( 8 ม.ค.68) บริเวณจุดตรวจบุคคลและพาหนะสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่1 ตำบลมีชัย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 67 ตำรวจสายตรวจ สน. สายไหม ขับรถไล่จับแก๊งยาบ้า เป็นระยะทางไกลกว่า 10 กม. หลังพบรถเก๋งต้องสงสัยมีชาย 2 คน หญิง 1 คน อยู่ในรถภายในซอยสายไหม 57 จึงเรียกตรวจแต่ผู้ต้องสงสัยไม่หยุดรถ แต่เร่งเครื่องหนี ชนรถชาวบ้านและรถสายตรวจที่จอดขวางเสียหายนับ 10 คัน ระหว่างทางยังยิงปืนใส่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนี สุดท้ายเสียหลักจนมุมชนกำแพงในซอยสายไหม 10 ตำรวจจับกุมนายวุฒิศักดิ์ อายุ 37 ปี คนขับได้คารถ และปิดล้อมพื้นที่นานกว่า 6 ชม. ก่อนจับกุมน.ส.นันทนา อายุ 31 ปี ภรรยานายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง อายุ 35 ปี คนร้ายที่หลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นรถพบของกลางยาไอซ์ 1 กก. ยาบ้า 1.6 แสนเม็ด
ต่อมาตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง และสืบสวนมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้รับแจ้งจากสายลับว่าบุคคลตามหมายจับนี้หลบหนีการจับกุมไปอาศัยอยู่ที่ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานงานกับทางการ สปป.ลาว เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัว จนสามารถจับกุมตัวได้ พร้อมของกลางอาวุธปืน 4 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่าง ๆ กว่า 60 นัด โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง และถูกดำเนินคดีในส่วนของทาง สปป.ลาวเรียบร้อยแล้ว ก่อนประสานส่งมอบตัวผู้ต้องหานี้ให้ทางการไทยผ่านช่องทางด่าน ตม.จว.หนองคาย
นายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง ยอมรับว่าเป็นคนขนย้ายยาเสพติดที่ตรวจยึดได้จริง และเคยส่งยาในลักษณะนี้มาแล้ว 5 ครั้ง ส่วนยาที่ยึดได้เป็นการส่งครั้งที่ 6 ในวันเกิดเหตุเป็นคนยิงใส่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนี กระโดดลงรถแล้วเดินปะปนไปในกลุ่มคนในตลาดนัด แล้วเรียกแท็กซี่หนีไปพักกับเพื่อนย่านพระราม 2 ก่อนเดินทางมาต่อรถอีกหลายทอดไปจนถึง จ.หนองคาย และจ้างเรือข้ามฟากไป สปป.ลาว ไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน สปป.ลาว จนมาถูกจับ ส่วนอาวุธปืนอีก 2 กระบอก เป็นของเพื่อนที่ทำงานร้านอาหาร ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลาว จับพร้อมกัน
สำหรับนายอภิวัฒน์ หรือเหน่ง ผู้ต้องหาในคดีนี้ ในปี 2553 เคยถูกจับข้อหาเสพยาเสพติด ท้องที่ สภ.เมือง สมุทรสงคราม ปี 2555 ถูกจับข้อหาพยายามฆ่า ท้องที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร และมาถูกจับในคดีนี้
