บิ๊กเต่าบุกจับนายอำเภอ เรียกรับเงินจากผู้รับเหมา

บิ๊กเต่านำทีมหน่วยงาน 3 ป. บุกจับนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินจากผู้รับเหมาก่อสร้าง โครงการซ่อมอาคารที่พักข้าราชการ วงเงิน 5 แสน เสร็จงานขอให้นาย 5 หมื่น

บุกจับเจ้าหน้าที่เรียกรับเงิน วันนี้ (10 ม.ค.68) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต (ป.ป.ท.) และนายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักงาน ป.ป.ช. ติดตามจับกุม นาย ว. (นามสมมุติ) นายอำเภอ อำเภอหนึ่งในจังหวัดกระบี่ และ นาง อ. (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน จังหวัดกระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

สำหรับคดีนี้ ประมาณเดือน พ.ค.67 ผู้เสียหายได้ทำสัญญาก่อสร้างโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารที่พักข้าราชการ ราคาจ้างเหมา 500,000 บาท  มีนายอำเภอ เป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ลงนามเป็นผู้ว่าจ้างโครงการ ต่อมาช่วงต้นเดือน มิ.ย.67 นายอำเภอ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับงานที่กำลังก่อสร้างตามสัญญาจ้างและบอกว่า “เสร็จงานแล้ว ให้นาย 50,000 นะ” กระทั่งเมื่อการก่อสร้างโครงการตามสัญญาเสร็จสิ้น มีการตรวจรับงานถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา ผู้กล่าวหาได้รับเงินค่าจ้างครบถ้วนแล้ว

ต่อมาช่วงประมาณปลายเดือน พ.ย.67 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ได้โทรศัพท์บอกกับผู้เสียหายว่า ผู้ต้องหาที่ 1 ฝากมาบอกให้นำเงินไปให้ ถ้าไม่ยอมก็ให้ผู้เสียหายไปเอาหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้เสียหายจึงโทรศัพท์ไปสอบถามนาง อ. (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน ทำหน้าที่หน้าห้องปลัดอาวุโส เกี่ยวกับเรื่องเงินดังกล่าว แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ผู้เสียหายจึงไปหาผู้ต้องหาที่ 1 ตามกำหนดนัด แต่ไม่พบ ระหว่างนั้นก็มีบุคคลโทรศัพท์มาหาผู้เสียหายแจ้งว่า ผู้ต้องหาที่ 1 ให้นำเงินไปให้

ผู้กล่าวหาจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นและขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกระบี่ จากนั้นได้ร่วมกันวางแผนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการกระทำผิด ด้วยการให้ผู้เสียหายนำเงินบางส่วน จำนวน 10,000 บาท ไปมอบให้กับผู้ต้องหาที่ 1 แต่ผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยอมให้ผู้เสียหายข้าพบและแจ้งกับหน้าห้องไว้ว่าให้ผู้เสียหายฝากเงินไว้กับผู้ต้องหาที่ 2

เมื่อผู้เสียหายเห็นว่าไม่สามารถเข้าพบผู้ต้องหาที่ 1 เพื่อมอบเงินให้ตามแผนที่วางเอาไว้ จึงเข้าไปนั่งพูดคุยเรื่องที่นำเงินมามอบให้กับผู้ต้องหาที่ 1 ต่อหน้าปลัดอาวุโส และผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมกับนำเงิน ที่จัดเตรียมออกมาวางไว้กลางโต๊ะรับแขกภายในห้องปลัดอาวุโส ก่อนที่ผู้ต้องหาที่ 2 จะหยิบเอาเงินบนโต๊ะไป และในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นผู้เสียหายได้โทรศัพท์ถึงผู้ต้องหาที่ 2 สอบถามเรื่องเงินที่มอบให้ได้รับการยืนยันว่าส่งมอบเงินให้กับผู้ต้องหาที่ 1 แล้ว ผู้เสียหายจึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 ตามกฎหมาย

ในวันนี้ขณะที่ผู้เสียหายนำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไปมอบให้แก่ผู้ต้องหาภายในห้องทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. จึงได้นำหมายจับเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา และดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับการสอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ความผิดดังกล่าว เกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด