ทหารตรึงเข้มแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จับหนุ่มอรัญประเทศ ลักลอบนำ 2 ชาวจีน จากฝั่งกัมพูชาเข้ามาไทย เผยได้ค่าตอบแทน 1,500 ต่อคน
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า จะมีการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย โดยใช้ช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จึงจัดกำลังเพื่อทำการตรวจสอบ โดยมีหมวดเคลื่อนที่เร็ว หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ หน่วยเฝ้าตรวจชายแดนที่ 11 และชุดปฏิบัติการด้านการข่าวที่ 3 กองกำลังบูรพา ร่วมด้วย ทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
โดยขณะกำลังปฏิบัติภารกิจบริเวณ บ.ทุ่งรวงทอง ม.9 ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามเส้นทางจากบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ห่างจากถนนหมายเลข 3367 ประมาน 80 เมตร จึงเข้าดำเนินการตรวจสอบ พบว่า ผู้ขับขี่เป็นคนไทย ชื่อว่า นายธนรัตน์ อายุ 42 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บ.เขาน้อยน้ำซับ ม.2 ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และผู้ที่โดยสารมาด้วยทั้งสองคนเป็นชาวจีน ตรวจสอบไม่พบเอกสารหนังสือเดินทาง (Passport) จึงได้ซักถามผู้ขับขี่ชาวไทย ทราบว่า ได้ลักลอบนำพาชาวจีน จากฝั่งประเทศกัมพูชา ข้ามมายังประเทศไทย ไปยังจุดนัดพบ จากนั้นจะมีรถยนต์มารับชาวจีน เพื่อเข้าไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศไทย
นายธนรัตน์ ยอมรับว่า ได้รับการว่าจ้างจากเพื่อนชาวกัมพูชาชื่อ นายเย็น ให้มารับชาวจีน จำนวน 2 คน บริเวณชายแดนประเทศไทย-กัมพูชา บริเวณดังกล่าว เพื่อนำพาเข้ามายังในประเทศไทย และไปส่งต่อให้กับชาวไทยชื่อ นายต่อ ที่หมู่บ้านวังยาว ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งได้รับค่าจ้าง จำนวน 1,500 บาทต่อคน รวมทั้งหมด เป็นเงิน 3,000 บาท หลังจากส่งชาวจีนทั้งสองรายถึงบริเวณจุดนัดพบ แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามชาวจีน ทราบว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนชาวจีนด้วยกัน ให้มาทำงานที่ประเทศไทย โดยเดินทางจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ลักลอบผ่านเส้นทางธรรมชาติไปยังประเทศเวียดนาม และมายังประเทศกัมพูชา เพื่อเดินทางต่อมายังประเทศไทย ผ่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใช้การลักลอบช่องทางธรรมชาติ ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการซักถามแล้วเสร็จ จึงได้นำตัวผู้นำพาชาวไทย 1 คน และชาวจีนทั้งหมด 2 คน พร้อมกับของกลางรถจักยานยนต์ จำนวน 1 คัน ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส เพื่อขยายผลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
