แม่พาลูกชายร้องศูนย์ดำรงธรรม หลังถูกนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นขับรถเก๋งชนขณะขี่ จยย.ทำให้ขาพิการ ผ่านไป 7 เดือนคดีไม่คืบ ตำรวจให้ไปฟ้องศาลโลก
(13 ม.ค. 68) ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง นางศิริลักษณ์ อายุ 60 ปี ผู้เป็นแม่ ได้พานายอนิรุตติ์ อายุ 25 ปี ลูกชาย เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอความเป็นธรรม ซึ่งนางศิริลักษณ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ขณะที่นายอนิรุตติ์ เลิกจากทำงานจึงขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้าน ระหว่างทางถูกนายคูโบตะ นักท่องเที่ยวสัญชาติญี่ปุ่น ขับรถเก๋งพุ่งชนอย่างรุนแรง
ทำให้นายอนิรุตติ์บาดเจ็บสาหัส สะโพกและขาแตกหัก โดยนายอนิรุตติ์ ได้เข้าโรงพยาบาลรักษา และผ่าตัดถึง 2 ครั้ง และแพทย์นัดผ่าตัดเปลี่ยนสะโพกเทียม วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่จะถึงนี้ และหลังเกิดเหตุนายอนิรุตติ์ต้องออกจากงาน เนื่องจากพิการไม่สามารถทำงานได้
หลังเกิดเหตุ นายคูโบตะ คนขับรถเก๋ง ยอมรับผิด และให้บริษัทประกันภัย รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายอื่นๆ แต่ขณะนี้นายคูโบตะ คู่กรณีเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว เหลือเพียงผู้หญิง ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่นั่งอยู่ในรถเก๋งวันเกิดเหตุเพียงคนเดียวและตนได้เรียกเงินค่าเยียวยา และรักษาตัวนายอนิรุตติ์ จำนวน 2 ล้านบาท แต่หญิงเจ้าของรถจะยอมจ่ายเพียง 2 แสน 5 หมื่นบาทเท่านั้น จึงทำให้ตกลงกันไม่ได้
วันนี้ตนจึงมาพบกับร้อยเวรเจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้าและการดำเนินคดี รวมทั้งขอคำแนะนำว่าตนเองควรจะอย่างไร แต่กลับได้รับคำตอบว่าให้ตนเองไปฟ้องศาลโลกเอาเอง จึงทำให้ตนเองรู้สึกผิดหวัง และหมดที่พึ่ง จึงมาร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง เพื่อขอความเป็นธรรม