ตำรวจจันทบุรี ทลายเครือข่ายแก๊งลักตัดสายเคเบิลใต้ดิน ตระเวนก่อเหตุหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ซ้ำตรวจพบมีหมายจับก่อเหตุหลายท้องที่
วันนี้ ( 18 เม.ย.68 ) พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ.จว.จันทบุรี แถลงข่าวจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาคดีลักตัดสายเคเบิลใต้ดิน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 เมษายน 68 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือ NT ได้แจ้งความร้องทุกข์ ว่าสายเคเบิลใต้ดินของบริษัทฯ ซึ่งเป็นสายทองแดงที่เดินไว้ภายในท่อใต้ดิน โดยเป็นสายที่ใช้กับโทรศัพท์บ้านในยุคเก่า ซึ่งส่วนใหญ่ถูกยกเลิกการใช้งานไปแล้วนั้น ได้มีคนร้ายตัดและขโมยไป ในพื้นที่ อ.เมืองจันทบุรีหลายแห่ง ความเสียหายนับล้านกว่าบาท จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับคนร้ายจนถึงที่สุด
หลังจากนั้นตำรวจจึงได้ร่วมกันสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด จนทราบถึงพฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้ จะเข้ามาอ้างตัวเป็นช่าง และมาเปิดฝาท่อร้อยสายเคเบิล จากนั้นได้ใช้คีมตัดขนาดใหญ่ตัด และใช้รถยนต์ลากสายเคเบิลดังกล่าวขึ้นมาจากใต้ดิน โดยร่วมกันทำงานประมาณ 5 คน ใช้รถยนต์ร่วมก่อเหตุ 3 คัน จนกระทั่ง วันที่ 18 เมษายน 68 สืบทราบว่า คนร้ายได้พักอาศัยอยู่ภายในรีสอร์ต 2 แห่ง ในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ และ อ.เมืองจันทบุรี จึงได้วางแผนเข้าค้นสถานที่ดังกล่าว พบผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน ได้แก่ 1.นายกฤษณะ หรือแจ้ อายุ 28 ปี, 2.นายเด่นชัย หรือเด่น อายุ 36 ปี, 3.นายรัติกร หรืออ๊อฟ อายุ 35 ปี, 4.นายธีระวัฒน์ หรือบิน อายุ 38 ปี และ 5.นายอภิเชฐิ์ หรือเหน่ง อายุ 42 ปี พร้อมของกลางอุปกรณ์การตัดสายเคเบิล ได้แก่ คีมตัดสายเคเบิล , แชลงเหล็ก, ค้อนโลหะ, ล้อเหล็กรองสำหรับลากสาย และพบชิ้นส่วนของสายเคเบิลที่ถูกตัดและอุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับสายเคเบิลดังกล่าว รถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุทั้งหมด 3 คัน และยังพบยาเสพติดได้แก่ ไอซ์ จำนวน 4 ถุง ยาบ้าอีก 11 เม็ด โดยผลการตรวจปัสสาวะผู้ต้องหาทั้งหมดพบมีผลเป็นบวก
จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้น พบว่า นายกฤษณะ หรือแจ้ มีหมายจับหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ,ส่วนนายเด่นชัย หรือเด่น มีหมายจับศาลจังหวัดพัทยา และหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ โดยทั้งหมด ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักตัดสายเคเบิลจริง นำเงินที่ได้มาแบ่งกันใช้จ่าย จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและตามฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง จากการซักถามเบื้องต้น แก๊งนี้จะตระเวนก่อเหตุหลายจังหวัด ซึ่งจะได้ขยายผลถึงขบวนการกลุ่มแก๊งที่เกี่ยวข้องต่อไป