พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งผลให้ราษฎรตำบลไล่โว่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
มีโรงเรือนอนามัยชุมชนบ้านสาละวะ ให้บริการรักษาสุขภาพเบื้องต้น มีเจ้าหน้าที่ 1 คน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. 7 คน และอบรมอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชนน้อย ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาสาละวะ 15 คน
ส่งเสริมไม้ผลเดิม คือ กาแฟโรบัสต้า จนเกิดความสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยมูลนิธิภูบดินทร์ฯ ให้ทหารชุดประสานงานฯ จัดระบบการเก็บและจำหน่ายกาแฟ ภายใต้แบรนด์ "สาละวะ-ไล่โว่" ทำให้ราษฎรมีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนละกว่า 14,000 บาทต่อปี จากเดิมที่มีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนละ 2,000 บาทต่อปี และนักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน ด้วยการช่วยคัดเมล็ดกาแฟ
จัดตั้งกลุ่มพัฒนาอาชีพผ้าทอกะเหรี่ยง เพื่อสร้างโอกาส คือ กลุ่มผ้าทอบ้านสาละวะ และบ้านไล่โว่ โดย กรมการพัฒนาชุมชน ให้ความรู้เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย ตรงความต้องการของตลาด ปัจจุบัน มีสมาชิก 28 คน มีรายได้เฉลี่ย 1,363 บาทต่อเดือน
ส่วนผลทดสอบ O-NET ชั้นประศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาสาละวะ ในวิชาวิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ สูงกว่าปีการศึกษา2565 และโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาไล่โว่ สูงกว่าระดับประเทศในวิชาคณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ และภาษาไทย
นักเรียนโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาสาละวะ ได้รับรางวัลเหรียญทอง ชนะเลิศ กิจกรรมการแข่งขันซูโดกุ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 และนักเรียนโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาไล่โว่ ได้รับรางวัลเหรียญทอง ชนะเลิศ กิจกรรมการแข่งขันวาดภาพระบายสี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับเครือข่าย ครั้งที่ 72 ปีการศึกษา 2567
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พระราชทานหนังสือนิทานต้นฉบับ ที่นักเรียนโรงเรียนบ้านกองม่องทะ สาขาไล่โว่ แต่งขึ้น 6 เรื่อง นำไปตีพิมพ์ และพระราชทานแก่โรงเรียนในพื้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3 เพื่อเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาเรียน
จากนั้น เยี่ยมชมห้องเรียนธรรมชาติ และการปลูกป่า 3 อย่าง บ้านสาละวะ โดยมีนักเรียนทั้ง 2 โรงเรียน เข้าไปศึกษาเรียนรู้ กว่า 60 คน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ได้เสด็จไปทรงปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565
สำหรับพื้นที่ส่วนขยายบ้านทิไล่ป้า, บ้านจะแก ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เช่น โรงเรียนบ้านหินตั้ง สาขาจะแก องคมนตรี ได้เปิดกิจกรรมยุววิจัยป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง รุ่นที่ 1 ซึ่งมูลนิธิภูบดินทร์ฯ ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 มกราคมนี้ เพื่อยกระดับการศึกษา พัฒนากระบวนการเรียนรู้ และสอดคล้องสมดุลกับทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 5 เข้าร่วม 69 คน
เป็นการเรียนรู้จากป่าธรรมชาติ ในรูปแบบฝึกฝน พัฒนาทักษะ และกระบวนการเรียนรู้แบบ Active learning เป็นการสืบสานแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เยาวชนได้เข้าใจธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสมดุล และนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ เสริมทักษะการทำงานร่วมกัน ทำให้ชุมชนยั่งยืน
ด้านสาธารณูปโภค ราษฎรบ้านจะแก 221 ครัวเรือน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ปีงบประมาณ 2568 ได้รับการสนับสนุนการติดตั้ง Solar home จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อให้มีไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือน
สถานบริการสาธารณสุขชุมชนบ้านจะแก ให้บริการกลุ่มบ้านจะแก และบ้านปางสนุก กว่า 300 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ, กล้ามเนื้อ และทางเดินอาหาร มีเจ้าหน้าที่ 4 คน และ อสม.29 คน
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ส่งเสริมปลูกเสาวรสหวาน ทำให้มีรายได้เฉลี่ย 30,000 บาทต่อปี และกรมทรัพยากรน้ำ จัดทำระบบน้ำเพื่อการเกษตร ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ที่บ้านสาละวะ-บ้านไล่โว่
การพัฒนาพื้นที่ มูลนิธิภูบดินทร์ฯ คำนึงถึงความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นพื้นที่แหล่งมรดกโลก และเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญ เป็นการสนองพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในการพัฒนาประเทศและสังคม เพื่อเป็นต้นแบบที่ดี ให้ภาครัฐนำไปเป็นแบบในการช่วยเหลือชุมชนแห่งอื่นต่อไป
