วันที่ 16 ม.ค.68น.ส.พัชรรินทร์ ประทุมเมฆ ประธานชมรมคนรักสัตว์เบตง เผยว่า ลิงที่อาละวาด รื้อค้นข้าวของ หาของกินตามบ้านชาวบ้าน จนข้าวของได้รับความเสียหาย สร้างความเดือดร้อน รำคาญ ให้กับชาวบ้านในชุมชนกาแป๊ะ กม.2 เขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อช่วงสิ้นปี 2567 จนได้รับฉายาว่า ลิงปริญญาโท เพราะความฉลาด ที่ไม่ยอมเข้ากรงที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ดักไว้ แต่สามารถใช้มือล้วงเอาอาหารไปกินได้ทุกรอบขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เดินทางมานั่งเฝ้า มาดักซุ่ม ถึง 2 วัน ก็ยังไม่สามารถใช้ปืนยิงยาสลบยิงได้ เพราะลิงไม่ออกมาปรากฏตัวให้เห็น ทั้งที่ปกติจะมาทุกวัน และได้หายไป จนมาพบว่ามาอยู่กับลิงอีกตัวที่บริเวณโรงเรียนเทศบาล1 และบริเวณวิทยาลัยการอาชีพเบตง
ล่าสุด ลิงปริญญาโท ได้ถูกจับแล้ว ที่โรงเรียนเทศบาล1 พร้อมเพื่อนซี้อีก 1 ตัวโดยเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ มีชาวบ้านแจ้งว่า มีลิง 2 ตัว ชอบมาอยู่บนหลังคา ปีนป่ายตามราวเหล็กและหน้าห้องเรียน บริเวณชั้น 4 ของอาคารโรงเรียน เกรงว่า จะกัดเด็กนักเรียน ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ จนคุณครู ต้องล็อคประตูให้เด็กนักเรียนอยู่ภายในห้องเรียน จึงไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าเบตง สมาชิกชมรมคนรักสัตว์เบตง และอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยมุสลิมเบตง พร้อมนำกรงขึ้นไปดักบริเวณชั้น4 ของอาคาร ตามที่คุณครู แจ้งว่า ลิงทั้ง 2 ตัว ชอบมาอยู่ด้านบนชั้น4 จนช่วงเย็นหลังเลิกเรียน คุณครูได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า มีลิงติดอยู่ในกรงดัก 1 ตัว และมีอีก 1 ตัว เดินวนเวียน เฝ้าอยู่ใกล้ๆ ไม่หนีไปไหน เจ้าหน้าที่จึงได้นำกรงอีก 1 กรงไปดัก จนกระทั่งมืดค่ำ ลิงตัวที่อยู่ข้างนอก ก็ไม่ยอมเข้าไปกินอาหารที่วางล่อไว้ในกรง แต่เอามือล้วงอาหารออกมากินได้ และมีพฤติกรรม เหมือนลิงปริญญาโท ที่เคยอาละวาด เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วแต่มีอีกอย่างที่เจ้าหน้าที่สังเกตเห็น คือ ลิงตัวนี้จะอยู่ใกล้ๆลิงตัวที่ถูกจับอยู่ในกรง เวลาคนเดินไปก็จะปีนป่ายหนีไป พอไม่มีคนก็กลับมาอยู่ข้างๆกรง เหมือนที่ชาวบ้านบอกว่าลิง 2 ตัวนี้ จะอยู่ด้วยกันตลอด จนชาวบ้านและเจ้าหน้าที่เข้าใจว่าคงเป็นตัวผู้กับตัวเมีย
เช้าวันนี้เจ้าหน้าที่จึงได้นำกรงดักและลิงตัวที่จับได้เข้าไปในห้องเรียน เพื่อจะล่อให้ลิงเข้าไปในห้องเรียน หากไม่ยอมเข้ากรงดัก ก็จะใช้วิธีปิดประตูห้องเรียนเพื่อทำการจับ และก็เป็นไปอย่างที่คาด ลิงเดินเข้าไปในห้องเพื่อหาเพื่อน แต่เจ้าหน้าที่ก็พลาดไม่สามารถปิดประตูได้ทัน เพราะเมื่อลิง ได้ยินเสียงเพียงนิดเดียว ก็จะกระโดดออกจากห้องเรียนทันที และมานั่งดูเจ้าหน้าที่ตามราวเหล็กทางเดิน บางครั้งก็ปีนไปแอบดูอยู่ใต้ฝ้าเพดานบางครั้งก็ไปยืนอยู่นอกห้องดูเพื่อนผ่านกระจก เจ้าหน้าที่จึงต้องปิดม่าน เพื่อไม่ให้ลิงมองเข้ามา เพื่อเป็นการบังคับให้ลิงเดินเข้ามาในห้องหากต้องการมาดูเพื่อน จนกระทั้งช่วงเย็น ลิง ก็เข้าไปในห้อง และเข้าไปหยิบอาหารที่อยู่ในกรงดักซึ่งตั้งใกล้กับกรงเพื่อนซี้ และทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ดึงกรงทั้งสองกรงแยกห่างออกจากกัน ลิงตัวที่ถูกจับได้ตัวหลัง ก็จะเอามือรอดออกมาแล้วดึงกรงของลิงอีกตัวให้มาอยู่ใกล้กันตลอด ช่วงที่เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายกรงจากชั้น4 ลงมาชั้นล่างก็ยังเอามือออกมาจับราวบันได ไม่ให้เคลื่อนย้ายลงด้านล่าง
ด้าน น.ส.เบญจวรรณ ดาเด๊ะ แม่ค้าขายกะทิ ที่ชุมชนกาแป๊ะ กม.2 ซึ่งลิงปริญญาโท เคยเข้าไปรื้อข้าวของทุกวัน จนจำลิงปริญญาโทได้แม่นยำ เพราะเห็นทุกวัน เมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่จับลิงได้ ทั้ง 2 ตัวก็ได้เดินทางมาดู และก็ยืนยันว่า ลิงตัวที่จับได้ตัวหลัง คือ ลิงที่มีฉายาว่า ลิงปริญญาโทที่ออกอาละวาด รื้อค้นข้าวของบ้านชาวบ้าน ก่อนที่จะหายไปช่วงที่เจ้าหน้าที่มาซุ่มดักยิงกับปืนยาสลบ ซึ่งพฤติกรรมต่างๆ ทั้งขนาด หน้าตา ก็เหมือนลิงที่ได้รับ ฉายาว่า ลิงปริญญาโท เป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ก็มั่นใจว่า เป็นตัวเดียวกัน
จากการตรวจดู พบว่า ลิงทั้ง 2 สองตัวเป็นเพศผู้ และคงเป็นลิงที่ชาวบ้านเลี้ยง แล้วอาจจะหลุดมา หรือ ปล่อย เพราะตัวนึงมีโซ่ปลอกคอ และบริเวณลำคอก็มีบาดแผลที่ถูกรัด จนเจ้าหน้าที่ต้องนำไปให้สัตว์แพทย์ช่วยทำแผล และทำการตัดปลอกคอที่รัดออก ส่วนอีกตัว ที่ชาวบ้าน ให้ฉายาปริญญาโท แม้ไม่มีปลอกคอ แต่ไม่มีเขี้ยวเลย ซึ่งคาดว่าคงถูกตัดเขี้ยวออก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำลิงทั้ง 2 ตัวไปไว้ที่ด่านตรวจสัตว์ป่าเบตง เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางมารับตัวไปดูแล ดำเนินการตามกระบวนการต่อไป
