ญาติหอบรูปหน้าศพ ร้องสายไหมต้องรอด คาใจสาเหตุเสียชีวิตสามี หลังผลชันสูตร 2 สถาบันไม่ตรงกัน แถมคนพบศพ มีเหตุบาดหมางใจกันอยู่ ลั่นยังไม่เผา จนกว่าจะพบความจริง
วันนี้ (18 ม.ค.68) นางสาวทัศนีย์ และครอบครัว เข้าร้องขอความช่วยเหลือนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังสามีเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุช่วงเดือนพฤษภาคม ตามตัวพบร่องรอยบาดแผล บอบช้ำตามตัวหลายจุด หลังเกิดเหตุส่งศพไปชันสูตร โรงพยาบาลแรกที่สถาบันแห่งหนึ่ง สันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิต “เสียชีวิตตามธรรมชาติ” หรือจากอาการป่วย หรือโรคประจำตัว แต่ญาติคาใจ เพราะผู้เสียชีวิตแข็งแรง ไม่มีอาการเจ็บป่วย จึงส่งไปชันสูตรที่นิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์ระบุ สมองได้รับการกระทบกระเทือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า เสียชีวิตลักษณะนี้ ไม่ได้เกิดจากการทำตัวเอง ครอบครัวจึงเข้าแจ้งความ ที่สภ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และจะยังไม่เผาศพ จนกว่าความจริงจะกระจ่าง
น้องผู้เสียชีวิต เล่าว่า คืนเกิดเหตุพี่ชายอีกคนโทรมาบอกพร้อมกับร้องไห้บอกว่า มีคนพบพี่ชายนอนคว่ำหน้าอยู่ในเลนโคลน ไม่หายใจแล้ว อยู่กลางทุ่งนา ซึ่งไม่ใช่นาของเรา และคนพบศพคือ นายบิ๊ก กับนายเบิร์ด จึงได้สอบถามแม่ของนายบิ๊ก และนายเบิร์ด เล่าว่า ได้ยินเสียงปืน 2-3 นัด ทำให้ทั้ง 2 คน วิ่งกันพาไปดู จึงไปเจอผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในนา ซึ่งสถานที่ที่เจอศพพบว่า มีไม้วางอยู่บริเวณนั้น 1 อัน และรองเท้า บูท 1 คู่ โดยแม่ของเขาก็ยอมรับว่า ไม้ดังกล่าวเป็นของนายบิ๊ก จึงได้ไปสอบถามนายบิ๊ก และนายเบิร์ด เล่าว่า ลงไปที่นา เพราะมีคนมาเขวี้ยงบ้าน ก่อนไปเจอผู้เสียชีวิตนอนชักอยู่ ทั้ง 2 คนยืนยันว่า ไม่ได้ตี ก่อนที่จะไปตามนายนัด กับนายก็อต ที่สนิทกับผู้เสียชีวิตให้พาไปส่งบ้าน แต่กล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงได้ยินเสียงปืนช่วง 22.45 น. ซึ่งมีช่วงเวลาที่หายไป เพราะหลังจากเสียงปืนดัง การนำพี่ชายมาที่บ้านไม่น่าใช้เวลานาน โดยตอนที่หอบพี่ชายมาส่งบ้าน ก็พบว่า พี่ชายปากเขียว และไม่มีลมหายใจแล้ว
สาเหตุที่เชื่อว่า มีบุคคลที่ต้องสงสัย เนื่องจาก คนที่ชื่อบิ๊ก มีหลานคนหนึ่งมีปัญหากับลูกของพี่ชาย และมีโอกาสได้ไปเคลียร์กัน จากปัญหาการเตะฟุตบอล และทะเลาะกัน มีการเขม่นกันอยู่หลายครั้ง พี่ชายจึงไปเคลียร์ กับนายบิ๊ก ในฐานะที่ต่างฝ่ายเป็นผู้ปกครองกัน พยายามห้ามหลานอย่ามีปัญหากันเลย ซึ่งวันที่เคลียร์กันเป็นช่วงเวลาเย็น และเป็นวันเดียวกับพี่ชายเสียชีวิต หลังเกิดเหตุบุคคลที่ครอบครัวสงสัย ไม่เคยมาสอบถามคดีอะไร และไม่เคยมาร่วมงานศพเลย
ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่า สามีเป็นเสาหลักของครอบครัวอยู่ด้วยกันมากว่า 20 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย มีลูกด้วยกัน 3 คน สามีไม่เคยมีโรคประจำตัว ทำให้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงอยากขอร้องให้ตำรวจตามหาคนร้ายให้ได้ 6-7 เดือนที่สามีพรากจากไป มีชีวิตลำบากมาก ต้องให้ลูกช่วยทุกอย่างในการทำมาหากิน เพราะขนาดขับรถตนก็ขับไม่เป็น ซึ่งตัวคนเดียวต้องส่งลูก ๆ เรียนถึง 3 คน
พนักงานสอบสวน ได้เรียกคนมาสอบปากคำหลายคน รวมไปถึง นายบิ๊ก, เบิร์ด, นัท และก็อต แต่เนื่องด้วยผลชันสูตรระบุว่า “เสียชีวิตโดยธรรมชาติ” จึงทำอะไรได้ไม่มาก เช่นเดียวกันกับผู้กำกับ สภ.บางไทร ได้เรียกครอบครัวไปพูดคุย แต่ทุกคนยังคาใจ เนื่องจากผลชันสูตรขัดแย้งกัน ตำรวจก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าอีก จึงไม่รู้จะทำอย่างไร