เสือโคร่งขาติดบ่วงแร้ว ตอบสนองต่อการรักษา กินได้วันละ 6 กก. ทีมสัตวแพทย์วางแผนเพิ่มปริมาณอาหารเพื่อให้มีสารอาหารเพียงพอต่อการฟื้นฟูร่างกาย ตอนนี้ดูแลในสภาพแวดล้อมกึ่งธรรมชาติ
ความคืบหน้าเสือโคร่งขาติดบ่วงแร้ว ล่าสุด กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับรายงานจาก น.ส.อังสนา มองทรัพย์ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ว่า วานนี้ (18 ม.ค.68) หลังจากที่คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติพุเตย และทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการเคลื่อนย้ายเสือโคร่งจากศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก มายังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เมื่อค่ำของวันที่ 15 ม.ค.68 เพื่อให้ได้รับการดูแลในสภาพแวดล้อมกึ่งธรรมชาติที่เหมาะสมนั้น ทางสถานีฯ ได้ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดเพื่อเฝ้าติดตามพฤติกรรมของเสือโคร่งอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยล่าสุดทีมสัตวแพทย์ได้รักษาด้วยการพ่นยาเบตาดีนบริเวณแผล และมีการปรับแผนการให้อาหารให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของเสือ
จากการติดตามพฤติกรรมการกินอาหาร พบว่า เสือโคร่งซึ่งมีน้ำหนักตัว 85 กิโลกรัม สามารถกินอาหารได้หมดทั้ง 6 กิโลกรัม แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองที่ดีต่อการรักษา ทางสถานีฯ จึงได้วางแผนเพิ่มปริมาณอาหารให้สอดคล้องกับหลักโภชนาการที่เสือควรได้รับอาหาร 10% ของน้ำหนักตัว หรือประมาณ 8.5 กิโลกรัมต่อวัน เพื่อให้เสือได้รับสารอาหารเพียงพอต่อการฟื้นฟูร่างกาย การปรับเพิ่มปริมาณอาหารนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเสือโคร่ง ซึ่งถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีความสำคัญยิ่งต่อระบบนิเวศ
ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จะติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การรักษาและฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนพิจารณาแนวทางการดูแลในขั้นตอนต่อไป