ชาวอินโดฯ 32 ราย ลอบข้ามฝั่งจากเมียนมาเข้าไทย เพื่อกลับประเทศ หลังกลุ่มธุรกิจผิดกม.ในเมียววดี ถูกกดดัน จากกองกำลัง BGF และ DKBA ฉก.ราชมนู สนธิกำลัง ตร.-ปกครอง ออกลาดตระเวนพบเข้าจับกุม
วันนี้ (19 ม.ค.68) หน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังออกลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ บริเวณบ้านวังตะเคียนใต้ ม.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยขณะลาดตระเวนอยู่นั้นได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลกำลังเดินผ่านช่องทางธรรมชาติจากฝั่งประเทศเมียนมาข้ามมายังประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าตรวจสอบพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลสัญชาติอินโดนีเซีย ตรวจสอบทั้งหมดลักลอบข้ามแดนมาฝั่งไทย โดยไม่มีวีซ่าผ่านแดน 32 คน แยกเป็น ชาย 30 คน หญิง 2 คน
จากการซักถาม บุคคลทั้ง 32 คนให้การว่า ทำงานอยู่ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา และไม่ประสงค์จะทำงานต่อ จึงลักลอบข้ามมายังฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติเพื่อเดินทางกลับประเทศของตน เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อซักถามและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
รายงานข่าวจากหน่วยข่าวทางทหารในพื้นที่ เปิดเผยว่า การหลบหนีของกลุ่มคนชาวอินโดนีเซียดังกล่าวเกิดจากกรณีที่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำ กกล.BGF และ DKBA ได้เรียกประชุมด่วน ผู้ประกอบธุรกิจชาวจีน เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวง และการค้ามนุษย์ ในพื้นที่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ในประเทศเมียนมา จึงทำให้ผู้ที่เข้าไปทำงานผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าวรวมตัวกันหลบออกมาเพราะอาจถูกกดดันดังกล่าว
