ตำรวจสอบสวนกลาง เข้าค้นโกดังย่านสมุทรปราการ พบยากันยุงเถื่อนนำเข้าจากประเทศจีนจำนวนมาก และเป็นยี่ห้อที่เสี่ยงมีสารอันตราย
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุมนายทัดชัย อายุ 32 ปี ที่ แสดงตนว่าเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว มีความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตามาตรา 246พรบ.ศุลกากรฯ ร่วมกันตรวจค้น โกดังแห่งหนึ่ง ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้น ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 35/2568
ของกลาง สินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศ ประเภทยากันยุง และยี่ห้ออื่นๆที่นำเข้าจากต่างประเทศ ประมาณ 380 ลัง
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นได้ทำการสืบสวนทราบว่า โกดังดังกล่าว มีการนำเข้าสินค้าที่น่าเชื่อว่าลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ โดยผิดกฎหมาย มาจำหน่ายให้กับประชาชน จึงได้ทำการขอหมายค้น หมายค้น ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 35/2568 เพื่อเข้าตรวจค้นและตรวจสินค้าโดยละเอียด เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจค้นเข้าตรวจค้น นาย ทัดชัย ฯ เป็นผู้นำตรวจค้น
ผลการตรวจค้นพบสินค้าลักลอบนำเข้าหนีภาษีจากต่างประเทศจริง ยากันยุง และยี่ห้ออื่นๆ ประมาณ 380 ลัง ชิ้นซึ่งเมื่อปี 2566 ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาประกาศเตือนประชาชนให้ซื้อยากันยุงที่มีฉลากไทยและมีเลขผลิตภัณฑ์ เนื่องจากพบว่า ยากันยุงที่นำเข้าจากต่างประเทศ หลายยี่ห้อ มีสารกลุ่มไพรีทรอยด์ (pyerethriods ) เมเพอร์ฟลูริน (Meperfluthrin) และไดมีฟลูทริน (Dimefluthrin) ซึ่งมีพิษต่อคนและสัตว์ หากสูดดมในปริมาณมากอาจทำให้รู้สึกมึนงง ปวดศรีษะ อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุก อ่อนเพลีย ชัก และหมดสติได้
ดังนั้นสินค้าดังกล่าวต้องขออนุญาตนำเข้า ผลิต และจำหน่าย เพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพ และเมื่อชุดปฏิบัติการได้ตรวจสอบ ยังพบว่าผู้นำตรวจค้นไม่สามารถหาแสดงเอกสารการนำเข้าและการชำระภาษีศุลกากรมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำบันทึกตรวจค้นและยึดสินค้าดังกล่าวไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งแก่ผู้ต้องหาว่าการกระทำดังกล่าว มีความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 พรบ.ศุลกากรฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาไม่สามารถนำเอกสารการเสียภาษีอากรมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้