ยิงสนั่นคาเฟ ปมขัดแย้ง

View icon 256
วันที่ 21 ม.ค. 2568 | 16.33 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เกิดเหตุชายฉกรรจ์นับ 30 คน บุกทำร้าย มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด 

เมือคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์หลาย 10 คน ไล่รุมทำร้ายกัน บริเวณหน้าร้านคาเฟแห่งหนึ่ง ย่านภาษีเจริญ เหตุการณ์นี้ ตำรวจต้องใช้กำลังหลายสิบนายเข้าระงับเหตุ ต้องใช้โดรนบินตรวจพื้นที่ก่อนเข้า เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน หลังเข้าระงับเหตุสามารถยึดปืนได้ 3 กระบอก คุมตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนได้ 24 คน

เรื่องนี้ เดิมทีเจ้าของร้านคนแรกชื่อ คุณ ม. เป็นคนทำร้านคาเฟนี้ขึ้นมา และช่วงปีที่แล้ว คุณ ม.ได้นำหุ้นร้าน 51% ไปขายให้กับเจ้าของใหม่ที่ชื่อ คุณ ธ. และมีการกู้ยืมเงินกันอีกจำนวนหนึ่ง ต่อมามีการไม่ชำระหนี้สินที่ยืมกัน คุณ ธ. จึงเข้ามาบริหารร้านแทน แต่ คุณ ม. ไม่ยอม นำกำลังคนมาขับไล่คนของคุณ ธ. ออกจากร้าน และนำกำลังคนกว่า 20 ราย เข้ามาคุมร้านแทน คุณ ธ. จึงมอบอำนาจให้ลูกน้องนำเอกสารไปแสดงเพื่อเข้ายึดพื้นที่คืน เป็นเหตุให้เกิดการปะทะกัน เรื่องนี้คุณ ม. อ้างว่า ถูกปลอมแปลงเอกสาร ทำให้ต้องเสียร้านไป จึงต้องการเอาร้านคืน

วันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังคาเฟแห่งนี้ พอไปถึงได้พบคนอยู่ในร้านจำนวนมาก และได้สอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่คนที่อยู่ด้านในร้าน ให้ข้อมูลว่าเป็นเพียงญาติเข้ามาดูแลพื้นที่ ไม่ทราบข้อมูล และไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล และได้ขอเบอร์ผู้สื่อข่าวเอาไว้ หากสะดวกจะโทรศัพท์เรียกมาให้ข้อมูล ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายเช ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจเจ้าของร้านคนใหม่ และเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการประทะกันเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดย นายเช นามสมมุติ ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยรับเรื่องจากเจ้าของเก่าว่าถูกหุ้นส่วนปลอมแปลงเอกสาร แล้วนำคนมาบุกยึดร้านคาเฟดังกล่าว ตนจึงเข้าช่วยเหลือ เข้าไปเจรจากับฝ่ายคู่กรณี หลังได้เจรจาพบว่า คู่กรณีมีเอกสารถูกต้องทุกอย่าง การเข้าพื้นที่ก็ถูกต้อง และในการเจรจาทางเจ้าของร้านคนเก่าได้ตกลงจะยอมใช้หนี้ก้อนแรก 30 ล้านบาท ให้คู่กรณี แลกกับการขอบริหารตามเดิม ทางคู่กรณีก็ตกลง ตอนนั้นตนคิดว่าเรื่องจะจบด้วยดี ตนจึงผันตัวไปอยู่ฝ่ายคู่กรณี

แต่พอถึงกำหนดระยะเวลาที่ต้องจ่ายเงินก้อนแรก 30 ล้านบาท ทางเจ้าของเก่ากลับผิดนัดไม่ยอมจ่าย ทางคู่กรณีจึงเข้ายึดร้านและมีการโอนหุ้นร้านถูกต้อง กรรมการร้านก็เห็นสมควรด้วย จึงเข้ามาบริหารร้าน โดยมี รปภ. มาดูแลพื้นที่ 7 คน

ต่อมาวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา เป็นวันเกิดเหตุช่วง 11.00 น. เจ้าของร้านเก่าได้นำกำลังคนกว่า 20 ราย เข้ามาบุกยึดร้านคืน และกดดันให้ รปภ.ของเจ้าของร้านคนใหม่ ออกจากพื้นที่ทั้งหมด เจ้าของร้านคนใหม่จึงเข้าแจ้งความข้อหาบุกรุก และได้รับมอบอำนาจให้นำเอกสารการครอบครองสถานที่ไปแสดงให้ชายฉกรรจ์ที่เข้าบุกรุกที่ร้านดู เพื่อขอพื้นที่คืน ตนเองจึงนำคนไปประมาณ 20 คน พอตนเดินไปยังไม่ถึงร้าน ได้มีชายฉกรรจ์จำนวนมากวิ่งกรูกันออกมา ทั้งอาวุธมีดและปืน ออกมาไล่ทำร้ายกลุ่มตน กลุ่มพวกตนจึงวิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง ตนอายุเยอะแล้ววิ่งหนีไม่ทัน ถูกไม้ตีเข้าที่หัวไหล่จะกระดูกร้าว ต้องหามส่งโรงพยาบาล

พันตำรวจโท อนันต์ วงทาษี รอง.ผกก.ป รรท.ผู้กำกับ สน.บางเสาธง ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้เกิดจากหุ้นส่วนร้านคาเฟ 2 คน มีข้อพิพาทกันเรื่องสิทธิครอบครองร้าน ต่างฝ่ายต่างมีการเอาคนของตัวเองเข้ามาดูแลพื้นที่ร้าน ทางเราเชิญทั้ง 2 ฝ่าย มาตั้งโต๊ะเจรจากันแล้วถึง 5 ครั้ง ทั้ง 2 ฝ่าย ก็มีทนายมาเจรา โดยมีตนเป็นคนกลางให้ พยายามไกล่เกลี่ยให้ ก็เหมือนจะจบลงด้วยดี 

แต่วันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ช่วงเย็น ฝ่ายเจ้าของใหม่ได้มาแจ้งความว่าถูกบุกรุกร้านคาเฟแห่งนี้ ตำรวจจึงรับแจ้งความไว้ รอเรียกอีกฝ่ายเข้ามาเจรจาอีกรอบ ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. เราได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายกัน มีการใช้อาวุธปืนยิงออกมาจากในร้านดังกล่าว ตนจึงนำกำลังตำรวจเข้าระงับ พอไปถึงที่เกิดเหตุ พบมีชายฉกรรจ์อยู่ในร้านดังกล่าวกว่า 30 คน จึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา เรียกกำลังเสริมกว่า 30 นาย เข้าระงับเหตุ ต้องใช้โดรนบินสำรวจพื้นที่  

หลังเข้าตรวจค้น พบอาวุธปืน 3 กระบอก มีด 5 เล่ม จึงเชิญตัวผู้ต้องสงสัย 24 คน มาสอบสวนที่โรงพัก มี 2 คน แสดงตัวเป็นเจ้าของปืน เบื้องต้น ทางเรากำลังตรวจสอบหาเจ้าของปืนอีกกระบอก และตรวจหาคราบเขม่าดินปืนในร่างกายผู้ก่อเหตุ จากนี้ก็จะส่งสายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบร้านคาเฟดังกล่าวให้มากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง