เช้านี้ที่หมอชิต - มาอีกแล้ว ลอตเตอรี่อลเวง 12 ล้านบาท "ผู้กองเข้ม" แจ้งจับ "ยายแหล่" ยักยอกทรัพย์ ไม่ยอมแบ่งเงิน 3 ล้านบาท ที่ถูกลอตเตอรี่ ซึ่งฝากไว้และตกลงกันว่า ถ้าถูกรางวัลต้องแบ่งกันคนละครึ่ง แต่พอถูกรางวัลจริง ๆ "ยายแหล่" กลับหายเงียบ สุดท้ายได้ข่าวว่าบินไปเที่ยวอิตาลีแล้ว
อลเวงโชค 6 ล้านบาท ผู้กองเข้ม-ยายแหล่
ร้อยตำรวจเอก ฐิติพัฒน์ พัฒนาภูมิเศรษฐ์ หรือ ผู้กองเข้ม อายุ 65 ปี อดีตตำรวจ ตชด.235 โชว์ลอตเตอรี่ 7 ฉบับ ที่ด้านหลังเขียนสลักชื่อไว้ด้วยปากกาว่า "เข้ม" ให้ผู้สื่อข่าวดู บอกว่าซื้อมาทั้งหมด 9 ฉบับ จากแม่ค้าขี่รถจักรยานยนต์เร่มาขาย แถวบ้านหนองหอย อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม โดยจ่ายเงินไปทั้งหมด 900 บาท ซึ่งลอตเตอรี่ 9 ฉบับ มี 2 ฉบับ ถูกรางวัลที่ 1 เลขที่ออก 807779 ตอนแรก ผู้กองเข้มยังไม่รู้ตัว จนหยิบลอตเตอรี่ขึ้นมาตรวจผ่านแอปพลิเคชัน
ลอตเตอรี่ 1 ใบ ต้องได้ 6 ล้านบาท ซึ่งผู้กองเข้มซื้อไว้ 2 ใบ ต้องได้ทั้งหมด 12 ล้านบาท แต่ความอลเวงเกิดขึ้น เพราะลอตเตอรี่ใบที่ 2 ไม่ได้อยู่กับผู้กองเข้ม แต่อยู่กับ นางบุญล้อม หรือยายแหล่ อายุ 68 ปี
ผู้กองเข้ม เล่าว่า ประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 17 มกราคม นั่งกินอาหารอยู่ในร้านลาบก้อยของยายแหล่ และหยิบลอตเตอรีขึ้นมาโชว์ ยายแหล่ถามว่า มีเลขอะไรบ้าง เขาก็ตอบว่า 79, 97
ยายแหล่เห็นว่า เลขท้ายสวย จะขอซื้อ 1 ใบ แต่ผู้กองเข้มบอกว่า ไม่ต้องซื้อ จะฝากไว้ แล้วดึงลอตเตอรี่เลขชุดให้ไป 1 ใบ ถ้าถูกรางวัลต้องแบ่งกันคนละครึ่ง และยืนยันว่าไม่ได้แลกจ่ายเป็นค่าอาหาร 120 บาท ตามที่เป็นข่าว
ผู้กองเข้มไปหายายแหล่ที่บ้าน เพื่อเอาเงินตามที่ตกลงกันไว้ว่า จะให้ 2 ล้านบาท ส่วนอีก 1 ล้านบาท ยายแหล่ขอไปตั้งเป็นกองกฐิน แต่ไม่พบตัว จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ธาตุพนม จังหวัดนครพนม
ส่วนยายแหล่อยู่ที่ไหน ญาติที่นั่งหน้าร้านลาบก้อย บอกว่า ยายแหล่เบิกเงินไปอิตาลีแล้ว หลังไปขึ้นเงินรางวัล 6 ล้านบาท แต่ความจริง ไม่ใช่ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบแล้ว ทราบว่ายายแหล่ย้ายไปอยู่กับลูกสาวที่จังหวัดสระแก้ว
คนสนิทเผยปมอลเวงโชค 6 ล้านบาท "ผู้กองเข้ม-ยายแหล่"
ยายสำลี อายุ 61 ปี คนสนิทยายแหล่ เปิดเผยว่า รู้จักป้าแหล่มาหลายสิบปี ซึ่งยายแหล่มาเช่าบ้านทำร้านลาบขาย และยืนยันว่า วันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา เห็นผู้กองเข้มแบ่งลอตเตอรี่ให้ยายแหล่ด้วยความเต็มใจ ไม่ได้ฝากเอาไว้ และยังพูดจาหยอกล้อกันว่า "แบ่งกันรวย หากถูกรางวัล จะใช้เป็นสินสอดขอแต่งงาน เพราะต่างคนต่างเป็นหม้าย"
ตำรวจเผย "ผู้กองเข้ม-ยายแหล่" ไม่ติดใจเงินถูกสลากฯ
ด้านพันตำรวจเอก ถวิล คำเกษ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรธาตุพนม เปิดเผยว่า ทั้งสองคนนำลอตเตอรีมาลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน คนละช่วงเวลา และต่างฝ่ายต่างยืนยันว่า ไม่ได้ติดใจ เป็นการแบ่งกันตั้งแต่ต้น
ต่อมาทราบว่า ผู้กองเข้มมาแจ้งความว่า ป้าแหล่ยักยอกทรัพย์ ซึ่งทางตำรวจรับไว้สอบสวน ถือเป็นการแจ้งความตามสิทธิ ส่วนจะผิดหรือถูกว่ากันไปตามพยานหลักฐาน แต่ตามหลักกฎหมาย มั่นใจว่าเป็นการให้โดยเสน่หา
ส่วนจะมีการฟ้องร้องสู้คดี หรือใครจะถูกแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จ จะสืบสวนต่อไป โดยตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
อาจารย์ ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล อธิบายว่า ความจริงแล้วการเขียน ชื่อ-นามสกุล ข้างหลังสลากฯ ไม่ได้ยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของสลากฯ แต่ตามกฎหมายจะนับว่าเป็นผู้ครอบครอง หมายถึง แสดงการครอบครองนำไปขึ้นเงินรางวัล กรณีที่ถูกขโมยสลากฯ มาขึ้นเงิน ถ้าตำรวจไม่ได้แจ้งอายัดไว้ และไม่มีคำสั่งศาลมาถึงสำนักงานสลากฯ ก่อนออกรางวัล สำนักงานสลากฯ ต้องจ่ายเงินรางวัลให้คนมาขึ้นเงิน เพราะถือว่าไม่ได้ยักยอกมา
ฟังแบบนี้ อาจมีปมสงสัยว่า ยายแหล่ ตกลงต้องแบ่งเงินให้ ผู้กองเข้ม ที่เซ็นสลักหลังสลากฯไว้หรือไม่ ปมนี้ทางอาจารย์ ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส บอกว่า ต้องย้อนกลับไปตรงที่ตำรวจ เพราะทั้งสองฝ่ายนำสลากฯ ไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน และต่างฝ่ายต่างยืนยันไม่ได้ติดใจ เป็นการแบ่งกันตั้งแต่ต้น ถ้ายึดตามนี้ก็ถือว่ามีการทำผิดสัญญา เข้าข่ายเป็นคดีแพ่ง ไม่ใช่การยักยอกทรัพย์