ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตามหา "ยายแหล่" หลังจากถูกลอตเตอรี่ 6 ล้านบาท และไม่ได้เเบ่งเงินครึ่งหนึ่งให้ "ผู้กองเข้ม" ตามที่ตกลงกันไว้ จนเป็นคดีความกัน ฐานยักยอกทรัพย์ แต่ดูเหมือนว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นการให้โดยเสน่หา
ผู้กองเข้ม อายุ 65 ปี อดีตตำรวจ ตชด. 235 ยังยิ้มแปร้อยู่เลย หลังรู้ตัวว่าถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา เลขที่ออก 807779 รับเงินไปเต็ม ๆ 6,000,000 ล้านบาท และมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ธาตุพนม จังหวัดนครพนม
จะเห็นว่า เจ้าตัวยังบอกตำรวจว่า "แบ่งลอตเตอรี่ให้ยายแหล่ 1 ฉบับด้วย เลข 79 เหมือนกัน" ซึ่งยายแหล่ก็มาลงบันทึกประจำวันไว้เช่นกัน แต่มากันคนละเวลา
ปรากฏว่า ไม่รู้ตกลงกันท่าไหน ผู้กองเข้มอ้างว่า ลอตเตอรี่ฉบับที่เเบ่งให้ยายแหล่ ไม่ได้ให้เลยนะ แต่ฝากไว้ และบอกว่า ถ้าถูกรางวัลที่ 1 แบ่งกันคนละครึ่ง ก็คือคนละ 3,000,000 บาท แต่ยายเเหล่บอกว่า ขอให้ 2 ล้านบาท ส่วนอีก 1 ล้านบาท จะไปตั้งกองบุญกฐิน
ผู้กองเข้มก็ตกลงตามนั้น เเต่ท้ายที่สุด 2,000,000 บาท ก็ยังไม่ได้ จึงต้องไปเเจ้งจับ ฐานยักยอกทรัพย์ ที่ สภ.ธาตุพนม ส่วนยายเเหล่ไปอยู่กับลูกสาวที่ จังหวัดสระเเก้ว เเล้ว
แต่มีพยานบุคคล ชื่อว่า ยายสำลี อายุ 61 ปี ยืนยันว่า ผู้กองเข้มแบ่งลอตเตอรี่ให้ยายแหล่ด้วยความเต็มใจ ไม่ได้ฝากเอาไว้ และยังพูดจาหยอกล้อกันว่า "แบ่งกันรวย หากถูกรางวัล จะใช้เป็นสินสอดขอแต่งงาน เพราะต่างคนต่างเป็นหม้าย" ไม่เห็นด้วยที่ไปเเจ้งความ ทั้งที่กินอยู่ด้วยกันสนิทกัน
สอบถาม "ผู้กองเข้ม" อีกครั้ง ปรากฏว่า ย้ายไปอยู่กับลูกชายที่ จังหวัดร้อยเอ็ด แล้ว แต่ชาวบ้านเล่าว่า หลังจากเกษียณอายุราชการ เมื่อปี 2565 กลายเป็นคนเร่ร่อน ต้องกินนอนตามวัด เพราะติดเหล้า ติดการพนัน และมักมานั่งดื่มกินที่ร้านลาบก้อยของยายแหล่ประจำ
พยานบุคคลสำคัญฝั่งผู้กองเข้มก็มี คือ ร้อยตำรวจเอกเพชรวิชัย อายุ 63 ปี ยืนยันว่า ผู้กองเข้มบอกยายแหล่ว่า "ถ้าถูกรางวัลต้องแบ่งให้ผมครึ่งหนึ่ง" ยายแหล่ตอบว่า "จ้า" แต่สุดท้าย ก็ไม่มีเงิน และไม่เจอตัว ส่วนที่บอกว่า ให้ลอตเตอรี่แทนค่าลาบ 120 บาท ผู้กองเข้มออกมาแก้ต่างแล้วว่า "ไม่จริง"
ส่วนคดีความ ตำรวจ สภ.ธาตุพนม อยู่ระหว่างการสอบสวน และออกหมายเรียก "ยายแหล่" มาให้การวันที่ 30 มกราคม นี้ หากสืบสวนทราบว่า แจ้งความเท็จ ยายแหล่ก็มีสิทธิเเจ้งความเอาผิดกลับได้
แต่ความเห็นอีกมุมหนึ่ง อาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส บอกว่า ถ้าเป็นการแบ่งกันตั้งแต่ต้น ถือว่ามีการทำผิดสัญญา เข้าข่ายเป็นคดีแพ่ง ไม่ใช่การยักยอกทรัพย์
