ฝุ่นพิษส่งผลต่อสุขภาพอย่างรุนแรง กทม.ปริมณฑลอ่วม! งดกิจกรรมกลางแจ้ง และต้องใส่หน้ากากป้องกัน PM2.5 ขณะที่ระยอง บุรีรัมย์ ก็น่าเป็นห่วง
วันนี้ (25 ม.ค.68) เว็บไซต์ IQAir จัดอันดับคุณภาพอากาศตามเมืองสำคัญของโลก ณ 08.46 น. ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI⁺) และมลพิษทางอากาศ PM2.5 พบว่า กทม. ค่าฝุ่น PM2.5 วิกฤตอยู่ในระดับสีแดงอยู่ในอันดับ 5 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก ทั้งนี้ระดับมลพิษทางอากาศมีผลกระทบต่อทุกคน มีคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายนอกบ้าน ปิดหน้าต่าง สวมหน้ากากภายนอกบ้าน และ เปิดเครื่องฟอกอากาศ ขณะที่ เชียงใหม่ อยู่ระดับสีเหลือง อันดับ 32
อย่างไรก็ตาม 10 อันดับเมืองไทย ที่ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI⁺)และมีมลพิษทางอากาศ PM2.5 มากที่สุด (เวลา 7.00น.) คือ
1 Khan Na Yao, กรุงเทพฯ
2 Bang Sao Thong, จังหวัดสมุทรปราการ
3 ลำลูกกา, จังหวัดปทุมธานี
4 ปทุมธานี, จังหวัดปทุมธานี
5 บางกะปี, กรุงเทพฯ
6 Saphan Sung, กรุงเทพฯ
7 Bang Phli, จังหวัดสมุทรปราการ
8 ระยอง, จังหวัดระยอง
9 คลองหลวง, จังหวัดปทุมธานี
10 ลำปลายมาศ, จังหวัดบุรีรัมย์
เว็บไซต์ "IQAir" แบ่งเกณฑ์การวัดคุณภาพอากาศ PM 2.5 ดังนี้
สีเขียว 0-50 AQI คุณภาพอากาศ "ดี"
สีเหลือง 51-100 AQI คุณภาพอากาศ "ปานกลาง"
สีส้ม 101-150 AQI คุณภาพอากาศ "มีผลกระทบต่อผู้ป่วยหรือร่างกายอ่อนแอ"
สีแดง 151-200 AQI คุณภาพอากาศ "มีผลกระทบต่อทุกคน"
สีม่วงอ่อน 201-300 AQI คุณภาพอากาศ "มีผลกระทบต่อทุกคนอย่างรุนแรง"
สีม่วงเข้ม 301+ AQI คุณภาพอากาศ "อันตราย"
ด้าน ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร (24 ม.ค.68 เวลา 07:00 น.) ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 73.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
12 อันดับ ของค่าฝุ่นPM2.5 เขตสูงสุดในกรุงเทพมหานคร
1 เขตหนองจอก 93.6 มคก./ลบ.ม.
2 เขตมีนบุรี 91.8 มคก./ลบ.ม.
3 เขตคันนายาว 91.5 มคก./ลบ.ม.
4 เขตบางนา 89.9 มคก./ลบ.ม.
5 เขตคลองสามวา 89.7 มคก./ลบ.ม.
6 เขตหนองแขม 87.6 มคก./ลบ.ม.
7 เขตบึงกุ่ม 87.6 มคก./ลบ.ม.
8 เขตสะพานสูง 83.7 มคก./ลบ.ม.
9 เขตลาดกระบัง 83.7 มคก./ลบ.ม.
10 เขตวังทองหลาง 81.5 มคก./ลบ.ม.
11 เขตภาษีเจริญ 80.9 มคก./ลบ.ม.
12 เขตลาดพร้าว 80.3 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ข้อแนะนำสุขภาพ
คุณภาพอากาศระดับสีแดง: มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทุกคน งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์